เมื่อเร็วๆนี้ วารสาร《TRENDS IN FOOD SCIENCE & TECHNOLOGY》ได้ตีพิมพ์การสรุปรวบยอดบทความวิจัยที่มีผลกระทบในวงกว้าง ซึ่งจัดทำโดยคณะทำการศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรอวิ๋นหนานกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การเกษตรแห่งชาติจีน
พวกเขาได้ทำการรวบรวมผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องในช่วงระยะเวลาเกือบ 40 ปี ตั้งแต่ปี 1986 ถึงปี 2024 โดยนำมาเรียบเรียงใหม่อีกครั้ง สามารถที่จะกล่าวได้ว่าเป็นการรายงานประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่ครบถ้วนที่สุดเท่าที่เคยทำกันมาสำหรับชาสุกผูเอ่อร์
บทสรุปคือ : ชาสุกผูเอ่อร์ เป็นไปได้จริง! ซึ่งกลไกเบื้องหลัง เป็นสิ่งที่วิจิตรพิสดารเกินจิตนาการ
ความมีลักษณะพิเศษพาะเฉกเช่นนี้ของชาสุกผูเอ่อร์ ขึ้นอยู่กับ :
1) “การวิ่งพลัดของจุลินทรีย์”ที่สายตามองไม่เห็น
ชาสุกผูเอ่อร์ได้มาอย่างไร?
เริ่มแรกนำเหมาฉาตากเขียวมาเทเป็นกอง แล้วพรมน้ำให้ชื้น หลังจากนั้นปล่อยให้การหมักเกิดตามธรรมชาติ
เชื้อเห็ดราชนิด Aspergillus niger/黑曲霉 และ Penicillium/青霉 จะเข้าสู่สนามโดยวิ่งพลัดเป็นไม้แรก แล้วส่งไม้ต่อให้กับเชื้อแบคทีเรีย Bacillus/芽孢杆菌 ซึ่งกระบวนการนี้เรียกว่า “การหมักกอง”
จุลินทรีย์เป็นช่างฝีมือที่มองไม่เห็น นำสารทีโพลิฟีนอลส์และคาเทชินที่ให้รสขมฝาดในใบชา ค่อยๆเกิดการสลายตัวแล้วสร้างตัวใหม่ เปลี่ยนเป็นสารสีน้ำตาลเข้ม (Theabrownins), ทีโพลิแซ็คคาไรด์
นี้ก็คือความลับที่ทำไมสีของน้ำชาสุกจึงออกแดงสว่าง รสหนานุ่มไหลลื่น
2) “การเปลี่ยนถ่ายเลือด”ของกลุ่มจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในลำใส้
ขณะนี้น้ำชาถูกคุณดื่มกลืนลงไปในท้องแล้ว ไฮไลท์จึงได้ปรากฏออกมา โดยคุณสามารถจินตนาการว่าชาสุกคือผู้จัดการในลำใส้ งานที่ทำก็คือ “เสริมเจิ้งชี่ ขับเซี่ยชี่/扶正袪邪” (ตามตำรับยาจีน ก็คือ บำรุงภูมิคุ้มกันโรค ขจัดปัจจัยก่อโรค)
ด้านหนึ่ง มันจะส่งเสริมจุลินทรีย์ชนิดดี อย่างเช่น Bifidobacterium/双歧杆菌 และยังมี Akkermansia muciniphila/阿克曼氏菌 ที่เป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดดีที่ช่วยลดน้ำหนักที่กำลังฮิตอยู่ในปัจจุบัน
อีกด้านหนึ่ง มันต้องไปยับยั้ง Helicobacter pylori/幽冂螺杆菌 ที่เป็นเชื้อแบคทีเรียก่อโรคที่แฝงตัวอยู่
ถ้าพูดในแง่ที่เป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้นก็คือ มันสามารถไปลดอัตราส่วนของ Firmicutes/厚壁菌门 กับ Bacteroidetes/拟杆菌门 ในลำใส้ได้อย่างเด่นชัด อัตราส่วนนี้ฟังดูเหมือนมีความสลับซับซ้อน แต่นักวิทยาศาสตร์ได้ตั้งสมญานามว่า “อัตราส่วนอ้วนผอม/胖瘦比” พึงระลึกเสมอว่าอัตราส่วนนี้ยิ่งต่ำ สภาวะเมตาบอลิซึมในร่างกายคุณยิ่งดี ยิ่งไม่เกิดโรคอ้วนได้ง่าย
โครงสร้างผนังลำใส้เปลี่ยนเป็นแน่นหนาแข็งแรงมากขึ้น หนังดีก็ถึงคราวต้องลงโรงกันแล้ว
3) “สวิตช์เปิดปิดการเผาผลาญไขมัน”ของร่างกาย
จุลินทรีย์ชนิดดีเหล่านี้ีจะอาศัยสารประกอบในใบชา ทำงานอย่างต่อเนื่อง ก่อเกิดสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า Short-chain fatty acids (SCFAs)
คุณสามารถมองพวกมันเป็น ผู้ส่งสารที่ลำใส้ส่งออกไป ทันใดที่ผู้ส่งสารก่อเกิดขึ้นมา ก็จะเข้าไปในเลือดทันที เข้าไปในกองบังคับการเมตาบอลิซึมต่างๆในร่างกายคุณ
อย่างเช่นเข้าไปในเนื้อเยื่อของตับและไขมัน เมื่อกด“สวิตช์เร่งเมตาบอลิซึม” จะมี 3 สิ่งเกิดขึ้น :
๑. เร่งให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญไขมันที่สะสมไว้ก่อนหน้านี้
๒. ยับยั้งการประกอบตัวขึ้นของไขมันใหม่
๓. ให้อินซูลินเกิดผลประสิทธิภาพยิ่งดีขึ้น น้ำตาลในเลือดก็สามารถควบคุมมีเสถียรภาพมากขึ้น
ข้อมูลทางคลินิกจำนวนมากล้วนยืนยันรับรองตรงจุดนี้ ผู้คนที่ดื่มชาสุกเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นรอบเอว, ไขมันในช่องท้อง, ไตรกลีเซอร์ไรด์, คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี ซึ่งดัชนีชี้วัดที่ทุกคนสนใจเหล่านี้ ล้วนปรากฏออกมาในแนวบวก
4) “เครื่องดับเพลิง”และการมองอนาคตระยะยาวของร่างกาย
ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่คุณอาจคาดคิดไม่ถึง อาการป่วยเล็กน้อยของผู้คนในปัจจุบัน ที่แท้ล้วนเกี่ยวข้องกับ การอักเสบเรื้อรัง/慢性炎症 และ ภาวะความเครียดออกซิเดชั่น/氧化应激 ภายในร่างกาย
ชาสุกผูเอ่อร์จะดำเนินการอย่างไร?
ด้านหนึ่ง มันสามารถขจัดอนุมูลอิสระได้โดยตรง เป็นการ“ดับเพลิง”ให้ร่างกาย
อีกด้านหนึ่ง มันสามารถช่วยคุณในการอัพเกรดระบบ Firewall กระตุ้นให้ระบบการต้านอนุมูลอิสระมีฤทธิ์ (กระตุ้นให้เซลล์สร้างโปรตีน Nrf2) ป้องกันมิให้ปัจจัยการอักเสบลุกลามไปทั่ว
จะสังเกตเห็นว่า นี้เป็นสายโซ่ตรรกะสุขภาพที่สมบูรณ์แบบ
สรุปได้ในประโยคเดียว : คุณค่าของชาสุกริเริ่มจากการหมัก ปฏิบัติการอยู่ในลำใส้ สุดท้ายผลประโยชน์ตกอยู่ทั่วร่างกาย
เอกสารอ้างอิง :
1. 重磅论文揭秘普洱熟茶 : http://xhslink.com/o/3xl7ohDEbwW
2. หมักกอง : การโผล่ออกมาจากฟากฟ้าของ“ชาสุก” (3) : https://puerthaiblog.blogspot.com/2016/03/3_9.html
3. จุลินทรีย์หลักในหมักกอง (3) : https://puerthaiblog.blogspot.com/2016/03/3_16.html
4. จุลินทรีย์หลักในหมักกอง (4) : https://puerthaiblog.blogspot.com/2016/03/4_17.html






ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น