วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2558

คุณค่าที่ 4 : คุณค่าขององค์ประกอบที่มีสรรพคุณทางและกลไกทางยา (2)

คุณค่าที่ 4 ใน 4 คุณค่าที่ยิ่งใหญ่ของชาผูเอ๋อร์ : 
คุณค่าขององค์ประกอบที่มีสรรพคุณและกลไกทางยา (2) 
普洱茶的四大价值之四 : 内含药用成分及药用机理价值 (二)




        ๓. “สารัตถประโยขน์ที่ 3” ของชาผูเอ๋อร์

        (1) คุณประโยชน์ทางตรงของชาผูเอ๋อร์ (直接的功效)

        “สารัตถประโยชน์ที่ 3” ของชาผูเอ๋อร์ ส่วนที่สำคัญคือคุณประโยชน์ทางตรง เหตุที่ใช้คำว่า “ทางตรง”(直接) ก็เพราะว่าคุณประโยชน์ส่วนนี้ทำให้ผู้บริโภคสามารถใช้ความรู้สึกสัมผัสรับรู้โดยตรงได้จากสรรพคุณที่เป็นรูปธรรม คุณประโยชน์นี้มีอยู่ 3 ด้าน 

        1. คุณประโยชน์ในการสร่างเมาและปกป้องตับ (解酒护肝的功效)

        คุณประโยชน์ของชาผูอ๋อร์ในการสร่างเมาเป็นที่เห็นพ้องต้องกันมานานแล้ว และในบรรดาผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการสร่างเมา ชาผูเอ๋อร์ถูกจัดให้อยู่ในอันดับต้นๆ

        ระบบการย่อยสลายเอธิลแอลกอฮอล์ในร่างกายปัจจัยหลักอาศัยเอนไซม์ 2 ชนิด คือ Ethanol Dehydrogenase(乙醇脱氢酶) และ Acetaldehyde Dehydrogenase(乙醛脱氢酶) เอนไซม์ตัวแรกทำให้แอลกอฮอล์แปรเปลี่ยนเป็น Acetaldehyde(乙醛) เอนไซม์ตัวหลังทำให้ Acetaldehyde ที่เป็นสารมีพิษแปรเปลี่ยนเป็น Acetic Acid(乙酸) ซึ่งไม่มีพิษ Acetic Acid จะถูกร่างกายเปลี่ยนเป็นพลังงานทันที สุดท้ายเปลี่ยนเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำ

        ชาผูเอ๋อร์ที่ประกอบด้วย L-Alanine(L-丙氨酸) เมื่อเข้าสู่ร่างกายทำให้เกิดเป็น Pantothenic Acid(Vitamin B;泛酸) จำนวนมากซึ่งจะไปสนับสนุนให้ระบบการย่อยแอลกอฮออล์ให้ทำงานปกติ นอกจากนี้ L-Cysteine(半胱氨酸) จะทำปฏิกิริยากับแอลกอฮอล์ เร่งอัตราการย่อยสลายแอลกอฮอล์ให้เร็วขึ้น และช่วยดูดซึมแอลกอฮอล์ปริมาณบางส่วน เป็นการเพิ่มความสามารถของร่างกายในการแบกรับแอลกอฮอล์ได้มากขึ้น(คอแข็งขึ้น) L-Cysteine สามารถแปรเปลี่ยนเป็น  Cystine(胱氨酸) เป็นตัวช่วย Taurine(牛黄酸) ในการซ่อมแซมเซลล์ตับ เซลล์สมอง เยื่อบุผิวและเนื้อเยื่อในกระเพาะอาหาร จากความหมายดังกล่าวนี้ กระบวนการสร่างเมาก็คือกระบวนการปกป้องตับ

        มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ได้ทดลองใช้วิธีนี้ คือ ในขณะที่ดื่มเหล้าก็ทำการดื่มชาผูเอ๋อร์ควบคู่กันไป วิธีนี้จะทำให้คอแข็งขึ้น แต่อยากชี้ให้เห็นว่า การดื่มเหล้าด้วยวิธีนี้เบื้องหน้าคือทำให้คอแข็งขึ้น แต่จะไม่เกิดผลทางปกป้องตับ เพราะว่าแอลกอฮอล์ทั้งหมดจะถูกย่อยสลายที่ตับ ตับคนเราในแต่ละวันสามารถทำการย่อยสลายแอลกอฮอล์ได้เพียงประมาณ 0.50 กรัม/นน.ตัว 1 กก. คนที่มีน้ำหนักตัว 70 กก. อนุญาตให้ดื่มแอลกอฮอล์จำกัดปริมาณต่ำกว่า 35 กรัม โดยเฉพาะคนที่อ่อนไหวต่อแอลกอฮอล์ยิ่งต้องลดปริมาณการดื่มลงมา ขอส่งเสริมการไม่ดื่มเหล้าหรือดื่มแต่น้อย เมื่อดื่มเหล้าเสร็จแล้วควรดื่มชาผูเอ๋อร์เพื่อสร่างเมาด้วย จุดประสงค์หลักเพื่อปกป้องตับ ลดการทำลายตับจากแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะใช้วิธีใดที่สร่างเมาเพื่อให้การดื่มเหล้าได้มากขึ้นนั้นไม่ควรได้รับการส่งเสริม ซ้ำยังขาดหลักทางวิทยาศาสตร์


        2. คุณประโยชน์ในการย่อยอาหารและละลายไขมัน (消食, 解牛腻的功效)

        เป็นที่ทราบกันในหมู่คนดื่มชาผูเอ๋อร์ว่า หลังจากทานอาหารที่หนักทางเนื้อสัตว์แล้วดื่มชาผูเอ๋อร์ ระบบการย่อยอาหารจะเร็วมาก เดิมเป็นความรู้ที่เข้าใจผิดว่า สาเหตุที่ชาผูเอ๋อร์ช่วยในการย่อยอาหารและละลายไขมันได้เพราะคาเฟอีนในชาผูเอ๋อร์ไปกระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะและลำไส้(Gastrointestinal Peristalsis;胃肠蠕动) ทำให้ระบบการย่อยอาหารรวดเร็วขึ้น แต่เหตุผลแท้จริงไม่เป็นไปตามนั้น เพราะนักวิทยาศาสตร์ได้ทดลองพิสูจน์แล้วว่า น้ำย่อยในกระเพาะมีสารที่สามารถย่อยเนื้อสัตว์ประกอบอยู่ อย่างเช่นเอนไซม์ Pepsin(胃蛋白酶) Glucoamylase(糖化酶) เป็นต้น

        ในกระบวนการหมักของชาผูเอ๋อร์ จะประกอบด้วยเอนไซม์ Cellulase(纤维素酶) Pectinase(果胶酶) ทำงานร่วมกับเอนไซม์ชนิดอื่นๆทำการแปรเปลี่ยนได้สารอนุพันธ์จำนวนมาก ในบรรดาสารอนุพันธ์เหล่านี้นอกจากจะมี Glucoamylase แล้ว ยังมีเอนไซม์ชนิดอื่นๆที่ทำปฏิกิริยากับ Bio-Enzyme(生物酶系) ที่อยู่ในกระเพาะและลำไส้ เพิ่มการหลั่งของ Pepsin แล้วเสริมให้ Pepsin มีฤทธิ์มากขึ้น ทำให้กระเพาะมีความสามารถในการย่อยอาหารโปรตีนเพิ่มมากขึ้น เพิ่มสมรรถภาพของระบบการย่อยอาหารของร่างกายให้สูงขึ้น

        คุณประโยชน์ของชาผูเอ๋อร์ในด้านช่วยย่อยอาหารและละลายไขมันนั้น มีข้อเท็จจริงหนึ่งที่เป็นรูปธรรม คือ คุณประโยชน์นี้ขึ้นอยู่กับสภาวะร่างกายของคนๆนั้น สำหรับคนที่มีสุขภาพแข็งแรง เมื่อทานเนื้อสัตว์มากแล้วดื่มชาผูเอ๋อร์จะเกิดผลของการช่วยย่อยอาหารและละลายไขมันเด่นชัดมาก ส่วนคนที่มีสุขภาพอ่อนแอผลอาจไม่เป็นไปตามที่คาด สาเหตุหลักเพราะว่า ระบบการย่อยของร่างกายเป็นการ  “พึ่งตนเอง” ขึ้นอยู่กับกลุ่มเอนไซม์เป็นตัวกำหนด สมรรถภาพในการย่อยอาหารและละลายไขมันของชาผูเอ๋อร์เป็นเพียงตัวช่วยไม่ใช่เป็นตัวปัจจัยหลัก คนที่สุขภาพแข็งแรงกลุ่มเอนไซม์ในกระเพาะและลำไส้สมบูรณ์ และมี “พลังขับเคลื่อน” เหลือเฟือ ส่วนคนที่สุขภาพอ่อนแอกลุ่มเอนไซม์ฯเกิดการชำรุดทรุดโทรม สมรรถภาพการขับเคลื่อนต่ำ ชาผูเอ๋อร์สามารถค่อยๆซ่อมแซมเอนไซม์กลุ่มนี้ แต่จะไม่ส่งผลเหมือนการใช้ “ยา” 

        เนื่องจากชาผูเอ๋อร์มีคุณประโยชน์ช่วยในการย่อยอาหารและละลายไขมัน ทำให้ผู้คนจำนวนมากยกระดับชาผูเอ๋อร์เป็นอาหารประเภท “ลดความอ้วน” นี้ก็เป็นการเข้าใจที่ผิด

        ความอ้วนเกิดจากหลายสาเหตุ ปัจจุบัน เราแบ่งความอ้วนออกเป็น Simple Obesity(单纯性肥胖) และ Secondary Obesity(继发性肥胖) 2 แบบ แบบแรกคือร่างกายมีปริมาณแคลอรี่ที่บริโภคเข้าไปมากกว่าการเผาผลาญ ทำให้เกิดไขมันส่วนเกินในร่างกายสะสมอยู่ใต้ผิวหนังแล้วทำให้น้ำหนักตัวเกินกว่าปกติ ระบบการย่อยและกระบวนการเผาผลาญอาหารทำงานปกติ เพียงแต่มีภาวะโภชนาการและวิถีการดำเนินชีวิตที่ไม่สมดุล และขาดการออกกำลังกาย แบบหลังจะแตกต่างกัน สาเหตุเกิดจากโรคที่มีการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อ(器质性病变)เหตุจากต่อมไร้ท่อและการเผาผลาญอาหารที่ทำงานไม่ปกติ เช่น การหลั่ง Insulin มากเกินไป เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นต้น จำเป็นที่จะต้องรักษาโรคให้หายขาดก่อน ความอ้วนจึงจะสามารถลดลงได้

        ชาผูเอ๋อร์มีผลในการลดความอ้วนแบบ Simple Obesity แต่ผู้ที่จะลดความอ้วนต้องบริโภคให้ถูกต้องตามหลักโภชนาบัญญัติและออกกำลังกายที่เพียงพอ และต้องมีสุขภาพจิตที่ดีด้วย การลดความอ้วนจึงจะสัมฤทธิ์ผล ชาผูเอ๋อร์ในด้านนี้มีบทบาทเป็นเพียงตัวช่วยไม่ใช่เป็นตัวเอก
        ส่วนความอ้วนแบบ Secondary Obesity ชาผูเอ๋อร์ไม่สามารถทำให้เกิดผลใดๆ เพราะความอ้วนแบบนี้ถือเป็นโรคชนิดหนึ่ง จำเป็นต้องผ่านการวินิจฉัยจากทางการแพทย์แล้วหาวิธีรักษา ชาผูเอ๋อร์ในด้านนี้ไม่มีผลแม้จะเป็นตัวช่วย จำต้องอาศัยยาในการรักษา

        3. คุณประโยชน์ในการดูแลกระเพาะอาหาร (养胃的功效)

        ชาผูเอ๋อร์มีข้อแตกต่างจากชาชนิดอื่นๆที่เด่นชัดที่สุดข้อหนึ่ง คือ ชาผูเอ๋อร์สามารถดื่มในขณะท้องว่างได้ ไม่เกิดผลทำร้ายกระเพาะและลำไส้แล้วยังมีคุณประโยชน์ในการดูแลกระเพาะอาหารได้  เนื่องจากสาเหตุ 3 ประการ 

        I. ชาผูเอ๋อร์หลังผ่านจากการหมัก จะเกิดสารอนุพันธ์จำนวนมากและเป็นสารโมเลกุลเล็ก(小分子) มีผลดีต่อการดูดซึมของกระเพาะและลำไส้ได้ง่าย ผลการกระตุ้นต่ำ ต่างจากชาเขียวและชาอูหลงแม้ว่าประกอบด้วยทีโพลิฟีนอลส์มากกว่าชาผูเอ๋อร์ แต่ทีโพลิฟีนอลส์ประกอบด้วยสารประกอบส่วนใหญ่เป็นสารโมเลกุลใหญ่(大分子) เมื่อดื่มในขณะท้องว่างจะเกิดผลกระตุ้นต่อกระเพาะและลำไส้อย่างรุนแรง ดังนั้น ผู้ใหญ่ที่มีสภาพร่างกายอ่อนแอและเด็กจะถูกเตือนให้ระมัดระวังอย่าดื่มชาเขียวในขณะท้องว่าง เช่นกัน ชาดิบผูเอ๋อร์ใหม่ๆจงอย่าดื่มในขณะท้องว่าง ชาดิบผูเอ๋อร์ที่ผ่านพัฒนาการแล้ว 20 ปีขึ้นไปและชาสุกผูเอ๋อร์ที่มีอายุ 3 ปีขึ้นไปจะมีคุณประโยชน์ในการดูแลกระเพาะอาหารอันเนื่องจากสารโมเลกุลเล็กเป็นปัจจัยหลัก

        II. ชาผูเอ๋อร์ประกอบด้วย Pectin(果胶) มากกว่าชาชนิดอื่นๆ สารนี้นอกจากมีคุณสมบัติการดูดซึมได้ดี ยังสามารถเหนียวติดและขจัดเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นอัตรายและสารพิษออกจากร่างกาย เช่น ธาตุโลหะหนักตะกั่ว ปรอท และธาตุกัมมันตรังสี เป็นปฏิบัติการล้างพิษในขณะเดียวกันดูแลปกป้องเยื่อบุผิวกระเพาะอาหาร ช่วยระบบการย่อยอาหาร สำหรับผู้ที่มีแผลในกระเพาะหรือเป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ  Pectin ในชาผูเอ๋อร์สามารถเปลี่ยนเป็นเยื่อบางๆเคลือบปิดแผลในกระเพาะแล้วทำให้แผลสมานหายได้ ผู้ที่ป่วยด้วยโรคกระเพาะอาหารจึงเหมาะที่จะดื่มชาผูเอ๋อร์

        III. คาเฟอีนในชาผูเอ๋อร์ทำให้กรดในกระเพาะอาหารมีฤทธิ์เป็นกลาง ปรับปรุงระบบการย่อยอาหารให้มีสมรรถภาพดีขึ้น

        ขอส่งเสริมให้ผู้ดื่มชาผูเอ๋อร์ทุกเช้าดื่มชาผูเอ๋อร์อุ่นๆ 1 แก้ว ดีที่สุดเป็นฉาเกาผูเอ๋อร์หรือชาสุกผูเอ๋อร์ที่คุณภาพดีอายุ 3 ปีขึ้นไป ถ้าเงื่อนไขอำนวย ดื่มชาดิบผูเอ๋อร์เก่า 30 ปีขึ้นไปก็จะเป็นการที่ดีกว่า โดยเฉพาะกระเพาะที่มีความเป็นกรดสูง หรือผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบและมีแผลในกระเพาะ และถ้าหากผสมน้ำผึ้งเล็กน้อยลงในชาผูเอ๋อร์จะทำให้คุณประโยชน์ในการดูแลกระเพาะอาหารมีผลดียิ่งขึ้น

       หลักการสำคัญของการดูแลกระเพาะอาหาร(胃)ถือเป็นการ “ดูแล”() และ “ดูแล” ลักษณะนี้ไม่ใช่จะเห็นผลได้ทันที แต่จะต้องมีความต่อเนื่องและ “มุ่งมั่น” จึงจะเกิดสัมฤทธิ์ผลได้ แน่นอนจะต้องรักษาวิถีการดำเนินชีวิตให้สมดุล...

........ยังมีต่อ........


(แปล-เรียบเรียง-ย่อ จากบทความ 4 คุณค่าของชาผูเอ๋อร์ --- คุณค่าที่ 4 : คุณค่าขององค์ประกอบที่มีสรรพคุณและกลไกทางยา...เขียนโดย เฉินเจี๋ย)


โพสต์นี้เคยเผยแพร่เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2558 ลงในเฟสเพจสมาคมผู้รักชาผูเอ่อร์แห่งประเทศไทย https://www.facebook.com/groups/1465523990337272/

คุณค่าขององค์ประกอบที่มีสรรพคุณและกลไกทางยา (1)
คุณค่าขององค์ประกอบที่มีสรรพคุณและกลไกทางยา (3)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น