วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

อะไรคือเฟิ่งหวงตานฉง?

 


        “กลิ่นหอมที่คงอยู่ถึงเจ็ดน้ำ/七泡有余香” เป็นคำกล่าวที่ชื่นชมชาวูหลงเถี่ยกวนยินจากอานซีมาโดยตลอด ส่วนชาวูหลงที่มีกลิ่นหอมแรงที่สุดของจีน เฟิ้งหวงตานฉงที่ถูกยกย่องให้เป็น “น้ำหอมแห่งชา/茶中香水” เมื่อเทียบกันแล้วเป็นที่เหนือกว่า

        ริชาร์ด นิกสัน ประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกที่เยือน“จีน” เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ หลังได้ชิมลิ้มรสชาเฟิ่งหวงแล้ว ได้กล่าวชื่นชมจนติดปากว่า “ทำให้กระปรี้กระเปร่ายิ่งกว่าธงชาติสหรัฐเสียอีก” 

▲ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ ริชาร์ด นิกสัน เยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูต ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2515

        เฟิ่งหวงตานฉง---เป็นชาที่ใช้ในพิธีเลี้ยงน้ำชา ในการพบปะหารือแบบไม่เป็นทางการของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง กับประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง ณ สวนซง เมืองกว่างโจว มณฑกว่างตง 

▲ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง หารือแบบไม่เป็นทางการกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ในวันศุกร์ที่ 7 เม.ย. 2566 ณ เมืองกว่างโจว มณฑลกว่างตง ผู้นำทั้งสองร่วมชมสวนซง (松园) และดื่มชา (1 “นิล”-เฟิ่งหวงตานฉง ; 1 “แดง”-จินเหมาหาว/金毛毫)
 

        | ทำไมถึงเรียกว่าเฟิ่งหวงตานฉง


        “เฟิ่งหวงตายฉง/凤凰单丛” เป็นคำเรียกทั่วไปของบรรดาต้นเดี่ยวที่ดีเด่นทั้งหลายพันธุ์เฟิ่งหวงสุ่ยเซียน

        “ตานฉง/单丛” ก็หมายถึง “ตานจู/单株 (ต้นเดียว)” 

        เฟิ่งหวงตานฉงเริ่มจากรัชสมัยถงจื้อ-กวังซวี่ราชวงศ์ชิง (ปี1875-1908) ได้ดำเนินการวิธีแบบทำการเด็ดเก็บจากต้นเดียว ทำการผลิตจากต้นเดียว ทำการซื้อขายจากต้นเดียว นำต้นเดียวที่ดีเด่นแยกออกมาผสมขยายพันธุ์ แล้วตั้งชื่อต้นชาสายพันธุ์ใหม่ และก็เป็นเพราะผลิตจากตำบลเฟิ่งหวง จึงเรียนขานเป็น “เฟิ่งหวงตานฉง


         | ความเป็นมาของเฟิ่งหวงตานฉง


        เฟิ่งหวงตานฉงจัดอยู่ในหมวดชาวูหลงจากกว่างตง พื้นที่ผลิตอยู่ที่ตำบลเฟิ่งหวงอำเภอฉาวอานเมืองฉาวโจวมณฑลกว่างตง 

▲เขตพื้นที่ผลิตเฟิ่งหวงตานฉง---ตำบลเฟิ่งหวง(凤凰镇) อำเภอฉาวอาน(潮安区) เมืองฉาวโจว(潮州市) มณฑลกว่างตง(广东省)


        การเพาะปลูกต้นชาและการทำใบชาของเขตพื้นที่ฉาวโจว สามารถสืบย้อนหลังไปถึงปลายยุคซ่งใต้เกือบพันปีมาแล้ว ตอนช่วงเวลานั้นก็มีเพียงต้นชา “วูหลง” และ “หงยิน


        ต้นชาวูหลงที่หลงเหลืออยู่ในเฟิ่งหวงปัจจุบัน มีใบใหญ่และใบเล็ก 2 สายพันธุ์


        หงยินเป็นต้นชาพันธุ์ป่า เมื่อผ่านการผสมพันธุ์ การคัดเลือกพันธุ์โดยมนุษย์รุ่นแล้วรุ่นเล่า จนวิวัฒนาการเป็น “ชาปากนก” ซึ่งประกอบด้วย 100 กว่าสายพันธุ์

        ปี 1956 ตั้งชื่ออย่างเป็นทางการเรียนว่า “เฟิ่งหวงสุ่ยเซียน

        ปี 1984 ถูกจัดประเภทเป็นต้นชาพันธุ์ลักษณะดีเด่นแห่งชาติ เลขอนุกรม : “หวาฉาเบอร์ 17/华茶17号” 

▲วิวัฒนาการของพันธุ์ต้นชาเฟิ่งหวงตานฉง---หงยิน/红茵(พันธุ์ป่า) → ชาปากนก/鸟嘴茶(พันธุ์เพาะปลูก) → เฟิ่งหวงสุ่ยเซียน/凤凰水仙(กลายพันธุ์-แม่พันธ์เฟิ่งหวงตานฉง) → เฟิ่งตานฉง/凤凰单丛(ลูกพันธุ์โดยการปักชำหรือตอนกิ่ง)

▲บรรพบุรุษของเฟิ่งหวงตานฉง---หงยิน/红茵 (ต้นชาพันธุ์ป่า)


        ต้นชากลุ่มสายพันธุ์สุ่ยเซียนจัดเป็นลำต้นเล็ก การขยายพันธุ์แบบอาศัยเพศโดยการเพาะเมล็ด ยีนคุณลักษณะเด่นของต้นชาแต่ละต้นล้วนไม่เหมือนกัน ดั่งพี่น้องจากพ่อแม่เดียวกัน แต่อุปนิสัยแตกต่างกัน

        ก่อนยุคปี 80 ศตวรรษที่แล้ว เนื่องจากคุณลักษณะพิเศษต่างๆของกลุ่มสานพันธุ์สุ่ยเซียน คนท้องถิ่นจึงได้ดำเนินการจัดการต้นชาโดยลำพังต้นเดียว ทำการเด็ดเก็บจากต้นเดียว ทำการผลิตจากต้นเดียว ทำการซื้อขายจากต้นเดียว จึงขนานนามว่า “เฟิ่งหวงตานฉง

        ในยุคปี 90 ศตวรรษที่แล้ว เมื่อเทคนิคการขยายพันธุ์โดยการปักชำและการตอนกิ่งได้พัฒนาขึ้นมา ปัจจุบันเฟิ่งหวงตานฉงจึงบ่งชี้ถึงกลุ่มของสายพันธ์หนึ่ง มิใช่บ่งชี้ถึงต้นชาต้นเดียวต้นหนึ่ง      

        เฟิ่งหวงตานฉงจึงเป็นชื่อของพันธุ์ต้นชากลุ่มหนึ่ง ขณะเดียวกันก็เป็นชื่อของผลิตภัณฑ์ชาชนิดหนึ่ง ละก็เป็นชื่อทางการค้าชื่อหนึ่ง


         | การจัดแบ่งเกรดของเฟิ่งหวงตานฉง


        ยุคปี 50-80 ศตวรรษที่แล้ว เป็นช่วงของยุคการผูกขาดซื้อขายโดยรัฐในเมืองจีน ช่วงเวลานั้นชาเฟิ่งหวงได้แบ่งออกเป็น 3 เกรดใหญ่ๆ : 

         - ตานฉง  ใบชาที่จัดอยู่ในระดับเกรดนี้ต้องอยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเล 600 ม. ขึ้นไป ทำชาโดยลำพังจากต้นเดียว เป็นต้นชาแก่ที่มีกลิ่นหอมและรสชาติที่มีเอกลักษณ์ ถือเป็นชาเกรดสูง

         - ล่างไช่  เป็นชาที่ผ่านขั้นตอน“ทำเขียว/做青” (ใบชาเกิดการกระทบกัน) แต่ไม่มีกลิ่นหอม ถือเป็นชาเกรดระดับกลาง

         - สุ่ยเซียน  เป็นชาที่ไม่ผ่านขั้นตอน“ทำเขียว/做青” ถือเป็นชาเกรดต่ำ 

▲การจัดแบ่งเกรดของเฟิ่งหวงตานฉง---ตานฉง/单丛 ; ล่างไช่/浪菜 ;  สุ่ยเซียน/水仙


         | การตั้งชื่อของเฟิ่งหวงตานฉง


        เฟิ่งหวงตานฉงมีคุณลักษณะพิเศษที่“หนึ่งต้นหนึ่งกลิ่น” ดังนั้น ชาวสวนชาเพื่อเป็นการแยกแยะพวกมันจึงได้ตั้งชื่อพวกมัน ซึ่งวิธีการตั้งชื่อร้อยแปดพันเก้า จนไม่เคยพบเห็นว่ามีความสลับซับซ้อนเช่นนี้มาก่อน ขอยกตัวอย่างการตั้งชื่อไม่กี่วิธีที่พบเห็นบ่อย เช่น :


        • การตั้งชื่อตามสัณฐานของต้นชา

          - จีหลงคาน/鸡笼刊 : รูปลักษณะต้นคล้ายสุ่มไก่ของเกษตรกรใช้สำหรับครอบขังไก่

          - เหนียงจื่อซ่าน/娘仔伞 : รูปลักษณะต้นคล้ายร่มที่กางออกถืออยู่บนมือแม่นาง 

▲เฟิ่งหวงตานฉงสายพันธุ์ “เหนียงจื่อซ่าน/娘仔伞” 

        • การตั้งชื่อตามรูปลักษณะของใบ

          - ซานเจี๋ยเย่ว/山茄叶 : ดั่งใบของใบต้นมะเขือยาวสีม่วง

          - จู๋เย่ว/竹叶 : เรียวยาวดั่งใบไผ่ 

▲เฟิ่งหวงตานฉงสายพันธุ์ “จู๋เย่ว/竹叶

        • การตั้งชื่อตามเรื่องราวทางประวัติศาสตร์

          - ตงฟางหง/东方红 : “ตะวันแดง” ช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม

          - ซ่งจ่ง/宋种 : พอเห็นชื่อก็คิดโยงไปถึงความหมายของมัน เป็นการบ่งชี้ถึงพันธุ์พืชรุ่นหลังของต้นชาเฟิ่งหวงตานฉงที่กำเนิดขึ้นในยุคซ่งเมื่อ 700 กว่าปีที่แล้ว 

▲เฟิ่งหวงตานฉงสายพันธุ์ “ซ่งจ่ง/宋种”--- “ซ่งจ่งเบอร์ 1/宋种 1号” เกิดการเหี่ยวเฉาตายเมื่อเดือน ส.ค 2016 อายุต้น 700 กว่าปี ถือเป็นการสูญเสีย“ซากดึกบรรพ์ที่มีชีวิต” ยังความโศกเศร้าแก่ฉาวโจว(แต้จิ๋ว)

        • การตั้งชื่อตามสภาพดินที่ต้นชาเจริญเติบโต

          - ยาสื่อเซียง/鸭屎香 : ดินจะออกสีเหลืองคล้ายขี้เป็ด จึงเรียกขานเป็นชา “กลิ่นขี้เป็ด” 

▲เฟิ่งหวงตานฉงสายพันธุ์ “ยาสื่อเซียง/鸭屎香


         | 10 รูปแบบกลิ่นหอมของเฟิ่งหวงตานฉง


        การตั้งชื่อร้อยแปดพันเก้าวิธีซึ่งเป็นไปอย่างตามใจฉัน เฟิ่งหวงตานฉงปัจจุบันพูดในทางน้อยก็มีถึง 100 กว่าสายพันธุ์แล้ว

        หลังยุคปี 80 ศตวรรษที่แล้ว เพื่อเป็นการทำให้ง่ายขึ้น วิธีการตั้งชื่อเฟิ่งหวงตานฉงจะตั้งชื่อตามกลิ่นหอมของผลิตภัณฑ์ชาที่แตกต่างกัน จึงมีการจัดเป็นกลุ่มของ “10 รูปแบบกลิ่นหอม” ของเฟิ่งหวงตานฉง


        หวางจือเซียง/黄栀香 (กลิ่นพุดซ้อน) อยู่กระจัดกระจานเป็นบริเวณที่กว้างที่สุด

         มี่หลานเซียง/蜜兰香 (กลิ่นกล้วยไม้) ครอบคลุมพื้นที่การปลูกมากที่สุด


        แน่นอน เฟิ่งหวงตานฉงยังมีกลิ่นหอมรูปแบบอื่นๆอีกมากมาย อย่างเช่น “ยาสื่อเซียง” ซึ่งเป็นตานฉงที่อยู่ในกระแสนิยมในไม่กี่ปีมานี้ ได้รับการยกย่องว่า “น้ำหอมที่คุณดื่มได้” 

▲10 รูปแบบกลิ่นหอมของชาเฟิ่งหวงตานฉง


         | ความแตกต่างของเฟิ่งหวงตานฉงที่ระดับเขาสูงกลางต่ำ


        พื้นที่ผลิตของเขาเฟิ่งหวงซานที่จริงจะไม่ใหญ่มาก ครอบครองทั้งหมด 8 หมื่นหมู่ ( ; 2.4หมู่ = 1ไร่) เขตพื้นที่ผลิตที่เป็นแก่นแท้ก็มีเพียงตำบลวูตุง (乌岽) ที่มีพื้นที่ 5 พันหมู่ ปริมาณการผลิตมีจำนวนจำกัด ข้อจำกัดของสภาวะทางภูมิศาสตร์ ทำให้ตานฉงกลายเป็นชาที่มีน้อยแล้วมีมูลค่า ประกอบกับความสูงเหนือระดับน้ำทะเลาที่ประมาณ 1400 ม. อุณหภูมิที่ยอดเขาและตีนเขาจะแตกต่างกันมาก นำไปสู่คุณภาพของชาแยกออกจากกัน 

▲ยอดเขาสูงแหล่งผลิตเฟิ่งหวงตานฉง


          - เขาต่ำ : ความสูง 400  ม. ลงมา เนื่องจากสภาพอากาศอบอุ่นทั้งปี ต้นชาไม่มีการพักตัว หลังการใส่ปุ๋ยแบบหมุนเวียน สามารถเด็ดใบชาได้ทั้ง 4 ฤดู

          - เขากลาง : ความสูงระหว่าง 400-800 ม. สามารเด็ดใบชาได้ 3-4 ครั้งใน 1 ปี

          - เขาสูง : ความสูง 800  ม. ก็คือชาเขาสูง จะมีเพียงชาฤดูใบไม้ผลิเพียงฤดูเดียวของทุกปี คุณภาพดีที่สุด 

▲รูปที่12-1 : ความสูงเหนือระดับน้ำทะเลของเฟิ่งหวงตานฉง---เขาต่ำ/低山 ; เขากลาง/中山 ;  เขาสูง/高山

▲คุณภาพที่แตกต่างกันตามบริเวณพื้นที่ที่ไม่เหมือนกันของเฟิ่งหวงตานฉง


         | การจัดแบ่งเฟิ่งหวงตานฉงตามอายุต้น


        ป่าต้นชาที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองจีนมีอยู่ 2 แหล่ง หนึ่งอยู่ที่ผูเอ่อร์อวิ๋นหนาน อีกหนึ่งอยู่ที่เฟิ่งหวงซาน ที่ซึ่งมีต้นชาโบราณราว 15000 ต้น ต้นที่อ่อนที่สุดก็มีอายุ 100 กว่าปี 


          - ต้นชาโบราณ : อายุต้น 100 ปีขึ้นไป

          - ชาเหล่าชง : อายุต้นประมาณ 50-100 ปี

          - ชาซินฉง : อายุต้น 50 ปีลงมา

▲การจัดแบ่งเฟิ่งหวงตานฉงตามอายุต้น---ต้นชาโบราณ/古树茶 ; ต้นชาเหล่าชง/老枞茶 ;  ต้นชาซินฉง/新丛茶


        ไม่ว่ากลิ่นหอมจะเป็นรูปแบบใด ไม่ว่าวิธีการตั้งชื่อจะสลับซับซ้อนเพียงใด การดื่มชาเฟิ่งหวงตานฉงสำคัญที่สุดจะต้องมีความดื่มด่ำ 2 แบบ :

          - ความดื่มด่ำแห่งขุนเขา/山韵 : เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่ต้นชาเจริญเติบโตที่แตกต่างกัน รสและกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ที่ก่อเกิดขึ้นจากการดูดซับองค์ประกอบของธาตุอาหารที่ ไม่เหมือนกัน 

          - ความดื่มด่ำแห่งต้นชา/枞韵 : บ่งชี้ถึงรสชาติของต้นชาหลังมีอายุถึงจุดๆหนึ่งแล้ว บุคลิกเฉพาะของสายพันธุ์


เอกสารอ้างอิง :

1. 凤凰单丛分类http://xhslink.com/a/TRY2IXeFsX05