- “หลงจิ่ง” กับ “ซีหูหลงจิ่ง” แตกต่างกันอย่างไร?
- เกรดสูงสุดของหลงจิ่ง เป็นชาใช้ยอดใบล้วนหรือไม่?
- จากราคาหลักร้อยถึงหลักหมื่นหยวน ชาหลงจิ่งทำไมถึงมีราคาต่างกันมากมายเช่นนี้?
การคัดเลือกสิบสุดยอดชาดังของจีนแต่ไหนแต่ใดมา ซีหูหลงจิ่งล้วนถูกจัดอยู่ในทำเนียบนี้เสมอมา และจัดอยู่ในอันดับตันเป็นซะส่วนใหญ่
ชาดังซีหูหลงจิ่ง ชื่อสียงเป็นที่เลื่องลือระบือไกล ส่วนสำคัญที่สุดคือมีบุคคลสำคัญ 3 ท่านที่อยู่เบื้องหลัง : หนึ่งคือนักพรต หนึ่งคือนักปราชญ์ อีกหนึ่งคือจักรพรรดิ
พระภิกษุผู้มีฉายาว่า“เปี้ยนฉาย” เป็นพระมหาเถระอันเป็นที่นับถือเคารพยิ่งในยุคซ่งเหนือ ส่วนนักปราชญ์ก็คือ“ซูตงพอ” ขณะนั้นดำรงเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในเมืองหางโจว บุคคลสำคัญ 2 ท่านนี้เป็นเพื่อนต่างวัยที่มีปฏิสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด
เปี้ยนฉาย ในบั้นปลายชีวิตได้ดำรงอยู่อย่างสันโดษที่หมู่บ้านหลงจิ่งซีหู ซึ่งตั้งอยู่ข้างๆบ่อมังกรที่อยู่ตีนเขาซือฟง บุกเบิกทำสวนชา ต้นชารุ่นที่ท่านได้ปลูกไว้ช่วงเวลานั้น ก็คือจุดเริ่มต้นของชาหลงจิ่ง
ซูตงพอ ไปเยี่ยมเยียนเปี้ยนฉายเป็นประจำเพื่อพูดคุยและชิมลิ้มรสชา ได้ประพันธ์กวีนิพนธ์ที่สรรเสริญความสุนทรียะของชาเป็นจำนวนมาก ทำให้ชาที่ผลิตจากหลงจิ่งนี้มีชื่อเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
แล้วจักรพรรดิคือพระองค์ใดเล่า? เป็นพระองค์ใดไม่ได้นอกจาก“จักรพรรดิเฉียนหลง”ที่ทรงบ้าการประทับตรา
จักรพรรดิเฉียนหลง ทรงชื่นชอบชาหลงจิ่งเป็นอย่างมาก “การเสด็จประพาสเมืองใต้ 6 ครั้ง/六下江南” ได้เสด็จไปหมู่บ้านหลงจิ่งถึง 4 ครั้ง ได้ทรงยกให้ต้นชา 18 ต้นเป็นชาจักรพรรดิ ทันใดที่ชาจักรพรรดิได้รับการแต่งตั้ง ก็เท่ากับชาหลงจิ่งได้รับการประทับตราพระราชลญจกรของจักรพรรดิเฉียนหลงเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนหลงจิ่ง
พระมหาเถระ นักกวีผู้ยิ่งใหญ่ จักรพรรดิ บุคคลสำคัญ 3 ท่านนี้ที่ช่วยเผยแพร่ ชาหลงจิ่งจึงมีชื่อขจรขจาย สามารถที่กล่าวได้ว่า : การมีชื่อเสียงของหลงจิ่ง “การดื่มดีเป็นเพียงพื้นฐาน วัฒนธรรมจึงเป็นแก่นสาร”
เมื่อ“ซีหูหลงจิ่ง”ที่มี“ซีหู”อักษร 2 ตัวเพิ่มขึ้นมา แล้วมันกับ“หลงจิ่ง”ที่แท้แตกต่างกันอย่างไร?---ความแตกต่างแบ่งออกเป็น 3 ด้าน :
1) เขตพื้นที่ผลิต
อ้างอิงตามมาตรฐานแห่งชาติ เขตพื้นที่ผลิตของชาหลงจิ่งครอบคลุมถึง 18 เขตอำเภอของมณฑลเจ้อเจียง ในนี้มีอยู่เพียงหนึ่งเดียวซึ่งเป็นเขตพื้นที่ผลิตใจกลางที่สำคัญที่สุด ก็คือเขตพื้นที่ผลิตซีหูในเมืองหางโจว ก็มีเพียงชาที่ผลิตจากเขตพื้นที่นี้จึงจะสามารถเรียกขานเป็น“ซีหูหลงจิ่ง”
เขตพื้นที่ 8 อำเภอที่อยู่รอบนอก รวมเรียกว่าเขตพื้นที่ผลิตเฉียนถัง แล้วเขตพื้นที่ 9 อำเภอที่อยู่รอบนอกออกไปอีก รวมเรียกเป็นเขตพื้นที่ผลิตเย่วโจว
ลักษณะพิเศษลำดับ 1 ที่ซีหูหลงจิ่งแตกต่างจากหลงจิ่ง ก็คือ “น้อย/少” แน่นอนว่าน้อยส่วนน้อย ภายในเขตพื้นที่ผลิตซีหูก็ยังมีการแบ่งออกเป็นระดับสูงต่ำ ซึ่งก็คือที่เรียกขานกันว่า เขตพื้นที่ผลิตชั้น 1, 2
• เขตพื้นที่ผลิตชั้น 1 บ่งชี้ถึง “ซือ, หลง, อวิ๋น, หู่, เหมย” เป็น 5 เขตพื้นที่ผลิตใจกลางที่สำคัญ
• เขตพื้นที่ผลิตชั้น 2 บ่งชี้ถึงเขตพื้นที่ผลิตที่อยู่นอก 5 เขตใจกลาง
2) พันธุ์ต้นชา
ชาหลงจิ่งมีมาตรฐานแห่งชาติ ซีหูหลงจิ่งก็มีมาตรฐานท้องถิ่นของตนเองที่เข้มงวดกว่า
พันธุ์ต้นชาที่ต้องการในมาตรฐานแห่งชาติ อาทิเช่น พันธุ์ฉินถี่ หลงจิ่ง43 เป็นต้นที่เป็นต้นชาพันธุ์เด่น โปรดสังเกตว่า ในนี้มีคำว่า“เป็นต้น” ก็คือความหมายที่ครอบคลุมที่ไม่มีข้อจำกัด
ส่วนมาตรฐานท้องถิ่นได้ระบุอย่างชัดเจนว่า ซีหูหลงจิ่งจะต้องใช้เพียง“พันธุ์ฉินถี่” “หลงจิ่ง43” และ “หลงจิ่งใบยาว” มาผลิต
ดังนั้น ความแตกต่างของซีหูหลงจิ่งกับหลงจิ่งอันดับ 2 ก็คือคำว่า“เข้มงวด/严格”
พันธุ์ต้นชาก็มีการแยกออกเป็นระดับสูงต่ำ
- พันธุ์ฉินถี่ มีรสชาติที่เต็มเปี่ยมที่สุด แต่ยอดใบจะงอกออกมาช้า ผลผลิตต่ำ
- หลงจิ่ง43 แม้รสชาติค่อนข้างเรียบ แต่ยอดใบจะงอกออกมาเร็วกว่า ผลผลิตมากกว่า รูปลักษณ์ทำออกมาดูดีกว่า
- หลงจิ่งใบยาว มีจุดด้อยที่เด่นชัดมาก ก็คือมีรสชาติอ่อนเกินไป
ดังนั้น ทั่วเขตพื้นที่ผลิตซีหูในปัจจุบัน กล่าวถึงด้านราคาแล้ว พันธุ์ฉินถี่จะสูงที่สุด กล่าวถึงด้านผลผลิตแล้ว หลงจิ่ง43จะสูงที่สุด ส่วนหลงจิ่งใบยาวเบื้องต้นถูกถอนรากถอนโคนจนหมดแล้ว
3) กรรมวิธีการผลิต
ซีหูหลงจิ่งโดยเฉพาะชาหมิงเฉียน(ก่อนเชงเม้ง) โดยส่วนใหญ่จะทำการ“ผัดชา”ด้วยมือเปล่า แล้วหลงจิ่งทั่วไปล่ะ ส่วนใหญ่จะผลิตด้วยเครื่องจักร
เป็นที่ทราบกันแล้วว่า หลงจิ่งจัดเป็นชาเขียวที่ผ่านการผัดชาแล้วมีรูปลักษณะแบน กรรมวิธีการผลิตที่เป็นหัวใจสำคัญมีอยู่ 2 ขั้นตอน คือกรรมวิธีการผัดชา “ชิงกัว” กับ “ฮุยกัว”
2 กรรมวิธีการผัดชานี้ ไม่ว่าขั้นตอนไหนล้วนต้องอาศัยประสบการณ์ที่ช่ำชองมากๆ ต้องใส่ใจต่ออุณหภูมิและควบคุมวิถีมือในกระบวนการผัดชาอย่างมาก การควบคุมที่พิถีพิถันแบบนี้ เป็นสิ่งที่เครื่องจักรยังไม่สามารถทำได้เป็นการชั่วคราวในปัจจุบันนี้
กรรมวิธีการผลิตที่แสนประณีตบรรจง งั้นก็ทำให้จุดเด่นโดยกำเนิดของใบชาสามารถสำแดงพลังออกมาเต็มที่กว่าตามธรรมชาติ
ดังนั้น ความแตกต่างของซีหูหลงจิ่งกับหลงจิ่งอันดับ 3 ก็คือคำว่า“ประณีต/细致”
ขอสรุปก่อนซะเล็กน้อยว่า : ทำไมซีหูหลงจิ่งถึงแพง?
ผลผลิตน้อย พันธุ์ต้นชาเข้มงวด กรรมวิธีการผลิตประณีต ประสบการณ์สัมผัสการชิมดื่มที่เลิศเลอกว่า งั้นจึงมีราคาที่ยิ่งแพงโดยธรรมชาติ
อะไรคือประสบการณ์สัมผัสการชิมดื่มที่เลิศเลอกว่า?
ขอยกตัว อย่างเช่นชาหมิงเฉียนจากเขตพื้นที่ผลิตซือฟง รวมถึงไป่เห้อฟง เมื่อได้ดื่มเข้าไปแล้วได้สัมผัส “กลิ่นเด่นรสนุ่ม” และ “ละมุ่นสดชื่น” อันเป็นความสุขชั้นยอดอย่างแท้จริง
ชาซีหูหลงจิ่งระดับบนที่เป็นของแท้เหล่านี้ กลิ่นหอมของมันมิใช่กลิ่นถั่วที่ไม่ซับซ้อนที่เพื่อนชาจำนวนมากระลึกถึง แต่เป็น“กลิ่นถั่วดอกไม้/豆花香” คือมี“กลิ่นถั่ว”อันเป็นกลิ่นที่มีอยู่เดิม ขณะเดียวกันยังมี“กลิ่นกล้วยไม้”ซ่อนเร้นอยู่ภายใน
มีสิ่งหนึ่งที่ขอเตือนไว้ว่า ไม่ว่าจะเป็นหลงจิ่งอะไรล้วนไม่มีชายอดใบล้วน
ในมาตรฐานแห่งชาติกำหนดไว้ว่า วัตถุดิบของเกรดพิเศษเป็น“1ยอด-1ใบเพิ่งคลี่” แล้วมาตรฐานท้องถิ่นที่เข้มงวดล่ะ แม้ไม่มีการกำหนดอัตราส่วนของยอดต่อใบอย่างชัดเจน แต่สามารถสังเกตจากรูปลักษณะของกากชาเกรดพรีเมี่ยม ตามคำกล่าวที่ว่า “เป็นดอกอ่อนเยาว์”
การจำแนกซีหูหลงจิ่งเป็นของแท้หรือไม่ได้อย่างไร โดยการพิจารณา 3 จุด :
• ฉลาก : ที่ออกให้โดยทางการสำหรับองค์กรธุรกิจชาและเกษตรกรชา บนฉลากมีเลขรหัสที่สามารถสอบทานได้ในเวบเพจ : www.xhlj.org.cn
• รูปลักษณ์ : ก็คือสีและเนื้อสัมผัสพื้นผิวของใบชาแห้ง ซีหูหลงจิ่งอันเนื่องจากได้จากการผัดชาด้วยมือ งั้นสีจะไม่เขียวเกินไป แต่จะค่อนไปทางเหลือง ทำนอง“เหลืองข้าวกล้อง”ตามที่กล่าวขานกัน แล้วมันมีเนื้อสัมผัสที่เสมือนกับผิวขัดด้วยทราย เมื่อสัมผัสผิวแล้วไม่ราบรื่น
• กากชา : ซีหูหลงจิ่งหลังผ่านการชงแล้ว กากชาจะต้องมีใบ ใบยิ่งอ่อนรูปใบจะยิ่งเล็ก โดยเฉพาะเป็นชาเกรดพิเศษ ยอดของมันจะใหญ่กว่าใบ
แน่นอน วิธีการที่น่าเชื่อถือที่สุดก็คือการดื่ม ผู้คนที่เคยดื่มซีหูหลงจิ่งของแท้มาแล้ว เมื่อมาดื่มชาที่อยู่เขตพื้นที่ผลิตรอบนอก ดื่มคำเดียวรู้เลยว่าเป็นของแท้หรือของปลอม !!
เอกสารอ้างอิง :
2. 西湖龙井为什么这么贵?: https://www.360doc.cn/article/71945343_1122062955.html