วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ยุทธจักรชาผูเอ่อร์ในสภาวะการณ์ที่สับสนปนเป | ตอนที่ 6/6


        ไม่ว่าสภาวะการณ์ที่ไม่แน่นอนของยุทธจักรจะผันแปรอย่างไร ท้ายสุดที่พวกเราจะต้องกล่าวถึงก็คือชีวิตที่เปลี่ยนไปของครอบครัวคนทำชาท้องถิ่น แน่นอนการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดมากที่สุดคือสภาพความเป็นอยู่ของพวกเขายกระดับที่สูงขึ้น เนื่องจากชาผูเอ่อร์มีราคาแล้ว ดังนั้นคนท้องถิ่นมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พวกเขาได้กลายเป็นผู้ที่มีฐานะร่ำรวยแล้ว 

▲ลักษณะบ้านของครอบครัวคนเดียวกันในยี่หวู่ที่ถ่ายภาพเมื่อปี 2007 เทียบกับปี 2019 จากบ้านชั้นเดียว รื้อก่อสร้างใหม่เป็นบ้าน 7 ชั้น เป็นทั้งที่อยู่อาศัย โรงงานทำชา และสถานที่ต้อนรับแขก

        เนื่องจากใบชาได้เปลี่ยนเป็นทอง ทำให้ทุกคนมุ่งทำสวนชาอย่างบากบั่นหมั่นเพียร บางครั้งอาจจะเป็นการเอาการเอางานมากเกินไป ทำให้เป็นที่น่าหนักใจต่อธรรมชาติและระบบนิเวศของขุนเขาชา 

        นอกจากนั้น เพื่อให้ชาผูเอ่อร์มีมาตรฐานทางคุณภาพความปลอดภัย(QS) มาตรฐานนี้ได้เริ่มประกาศใช้ประมาณตั้งแต่ปี 2006  ครอบครัวทำชาจำนวนมากจำต้องเสาะหาบริเวณพื้นที่ใหม่ภายนอกบ้านพักอาศัย ก่อสร้างโรงงานที่ทันสมัย ถ้าหากคุณได้ไปยี่หวู่ ยืนอยู่บนที่สูงแล้วจะมองเห็นว่า เดิมบ้านที่มุงหลังคาด้วยแผ่นกระเบื้องขี้เถ้ายิ่งอยู่ไปยิ่งถูกแผ่นเหล็กก่อสร้างสมัยใหม่มาปิดบังและแทะกลืนกินไปเรียบร้อยแล้ว 

▲สภาพบ้านหลังเก่าที่ถูกทดแทนด้วยอาคารโรงงานทันสมัย

        ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่กล่าวถึงเลยมิได้ ก็คือ “การเปลี่ยนใหม่ทางรสชาติ” คนยี่หวู่แท้จริงก็เหมือนคนอวิ๋นหนานทั่วไป ในระยะเวลาอันยาวนานโดยดื่มชาดิบเป็นส่วนใหญ่ รสชาติของมันใกล้เคียงกับชาเขียว

        ชาเก่าแน่นอนเป็นของล้ำค่าหายาก ถึงแม้ในช่วงปี 2007 คนพื้นที่ยี่หวู่ได้รู้จักชาผูเอ่อร์ที่ยิ่งเก่ายิ่งหอมกันแล้ว แต่ว่าในช่วงนั้นอันที่จริงพวกเขาแทบจะไม่ยอมรับ กระทั่งมีการต่อต้านเล็กน้อย แต่ว่าในปีล่าสุดที่ผ่านมาได้พบเห็นคนท้องถิ่นได้หันมาดื่มชาเก่าที่มีอายุ 5-10 ปีที่พวกเขาเป็นคนเก็บด้วยตัวเอง

▲การเปลี่ยนใหม่ทางรสชาติ

        แนวความคิด “ยิ่งเก่ายิ่งหอม” กำลังเปลี่ยนแปลงแหล่งผลิตชาของอวิ๋นหนาน ไม่เพียงแต่บนรสชาติ ยังอยู่บนแนวความคิด บนการเพิ่มคุณค่าทางธุรกิจ เป็นต้น ทางมนุษยวิทยาจะเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “รสชาติที่ตระหนักรู้ได้ในภายหลัง” (Learned Taste) คือการบ่งชี้ถึงรสชาติหนึ่ง คุณค่าหนึ่ง อันที่จริงมันเป็นผลจากการค่อยๆประติประต่อขึ้นมาโดยการเปลี่ยนใหม่ทางสังคมและวัฒนธรรม 

        อะไรคือ “การตระหนักรู้ได้ในภายหลัง” สิ่งที่บ่งชี้ถึงก็คือไม่ว่ามาตรฐานดั้งเดิมใดๆนั้นมิใช่จะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ มันล้วนเป็นการกำหนดขึ้นโดยมนุษย์ 

        นี่ถือเป็นการวิเคราะห์ถึงกระบวนการของมาตรฐานดั้งเดิมระบบหนึ่งที่ถูกกำหนดสร้างขึ้นมาได้อย่างไร แล้วมาแบ่งปันกับพวกท่าน

        สวัสดี ขอขอบคุณพวกท่านทุกคน  



เอกสารอ้างอิง : https://youtu.be/uTSKS6skVYU