ชาผูเอ่อร์“เกรดตราห้าง” บ่งชี้เฉพาะชาผูเอ่อร์ที่ผลิตในช่วงเวลาระหว่างปี1993-2008 ประวัติศาสตร์ 15 ปีถือว่าสั้นมาก แต่กล่าวสำหรับชาผูเอ่อร์แล้วกลับเป็นประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ช่วงหนึ่ง เมื่อการซื้อขายระบบเก่าค่อยๆล่มสลายไป ในภาวะที่กฎระเบียบระบบใหม่ยังไม่แน่นอน ชาผูเอ่อร์ได้เข้าสู่ยุคที่ดูเหมือนมีความสับสนอลหม่านแต่ก็ดั่งนานาบุปผาบานประชันกัน
• ทำไมเป็นช่วงปี1993-2008 แล้วทำไมถึงตั้งชื่อว่า“เกรดตราห้าง”?
ในระบบวัฒนธรรมชาจีน การดำรงอยู่ของชาผูเอ่อร์มีลักษณะที่พิเศษเฉพาะ รูปธรรมชาผูเอ่อร์ที่พวกเราสามารถพบเห็นได้ในปัจจุบัน สามารถทำการแยกแยะโดยการอ้างอิงตามยุคสมัยที่แตกต่างกันออกได้เป็น 3 ยุคคือ ชาเกรดห้าง ชาเกรดพิมพ์ ชามัดเจ็ดแผ่น ส่วนที่เรียกกันว่าชายุคกลาง ชาใหม่เป็นแนวความคิดของเวลาซึ่งไม่หยุดนิ่ง จึงไม่สามารถจัดออกมาเป็นยุคสมัยได้
- ชาเกรดห้าง โดยทั่วไปบ่งชี้ถึงชาผูเอ่อร์ที่ยังหลงเหลือจากห้างร้านชายุคก่อนปี 1949 ตราบจนถึงทุกวันนี้มีอายุการเก็บเกิน 70 ปี กระทั่งมีชาเก่าที่อายุเกินร้อยปี
- ชาเกรดพิมพ์ บ่งชี้ถึงชาผูเอ่อร์ในช่วงปี1952-1972 “ตราจงฉา/中茶牌”ได้ถือกำเนิดขึ้นมาอย่างเป็นทางการ กระดาษห่อวงนอกมีการพิมพ์คำ“中茶牌圆茶/แผ่นชากลมตราจงฉา” ตรงกลางจะพิมพ์โลโก้ “八中茶(ปาจงฉา)” กลางโลโก้เป็นตัวอักษร“茶” ซึ่งในวงการจะเรียกชื่อเพื่อแยกแยะชนิดตามสีของตัวอักษร“茶” อาทิเช่น พิมพ์แดง(红印) พิมพ์เขียว(绿印) พิมพ์น้ำเงิน(蓝印) พิมพ์เหลือง(黄印) เป็นต้น
- ชามัดเจ็ดแผ่น นับตั้งแต่ปี 1972 ที่บริษัทใบชามณฑลอวิ๋นหนาน(云南省茶叶公司)ได้ก่อตั้งขึ้นมา ซึ่งได้รับสิทธิ์ผูกขาดในการส่งออกใบชา ผลิตภัณฑ์ชาที่ส่งออกล้วนมีรหัสตัวเลข(唛号)ระบุไว้ บนกระดาษห่อล้วนพิมพ์คำ“雲南七子餠茶(อวิ๋นหนานชีจื่อปิ่งฉา)” จึงถูกเรียกขานเป็น“ยุคชามัดเจ็ดแผ่น” (ใน 1 มัดมี 7 แผ่น น้ำหนักแผ่นละ 357 กรัม หรือมัดละ 2.5 กก. 1 ลังมี 12 มัด น้ำหนักรวม 30 กก.)
“เกรดตราห้าง” ที่พวกเราได้นิยามกันในปัจจุบัน คือการบ่งชี้ถึงชาผูเอ่อร์ที่ผลิตในช่วงระหว่างปี 1993 ที่ตลาดได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่เนื่องจากนโยบายผูกขาดการจัดซื้อและการค้าขายได้ถูกยกเลิกไป จนถึงปี 2008 ที่มาตรฐานแห่งชาติจีนของชาผูเอ่อร์ได้ประกาศเริ่มใช้อย่างเป็นทางการ
กล่าวสำหรับชาผูเอ่อร์แล้ว แม้จะเป็นช่วงระยะ 15 ปีของการคลำหินข้ามธาร(摸着石头过河) แต่ก็เป็นยุค“ร้อยบุปฝาบานสพรั่ง ร้อยสำนักประชันกัน” ตามที่ตลาดชาผูเอ่อร์ได้เปิดการค้าเสรีทั้งหมด เข้าสู่ระบบทุนนิยม ธุรกิจภาคเอกชนทยอยกันปรากฏตัว ตราสินค้าใหม่ๆปรากฏออกมาอย่างไม่ขาดสาย
• จุดประกายให้ชาผูเอ่อร์ฟื้นฟูโดยถ้วนหน้า
การเริ่มต้นของเกรดตราห้าง ถือเป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์การพัฒนาของชาผูเอ่อร์ ช่วงเวลาจากปี1993-2008 ลักษณะพิเศษเฉพาะแห่งยุคที่สดใหม่ได้ปรากฏขึ้น เมื่อมองจากยุคปัจจุบัน ก็เป็นเพราะลักษณะที่สำคัญเหล่านี้ นำมาซึ่งการฟื้นฟูโดยถ้วนหน้าของชาผูเอ่อร์
- การฟื้นคืนชีพของยี่หวู่ :
ในปี 1993 เติ้งสือไห่(邓时海)ได้นำเอกสาร”ยิ่งเก่ายิ่งหอม”เสนอในงานประชุมสัมนาวิชาการนานาชาติชาผูเอ่อร์ครั้งที่1 ทำให้คนชาใต้หวันได้ริเริ่มไปทำการศึกษาและสำรวจชาผูเอ่อร์ในอวิ๋นหนาน ในปี 1994 คณะชาวใต้หวันสมาชิก“สมาคมศิลปะชาจีน”ได้บุกไปค้นหา“ยี่หวู่เจิ้นซาน”ที่พบเห็นได้บ่อยๆบนฉลากในของแผ่นชาเกรดห้าง
แต่ทว่ายี่หวู่ในช่วงเวลานั้น มีลักษณะที่ไม่เหมือนเดิมมาตั้งนานแล้ว ไม่เฉพาะห้างชาแต่ก่อนไม่มีร่องรอยหลงเหลืออยู่ตั้งนานแล้ว กรรมวิธีการผลิตดั้งเดิมแทบไม่มีการสืบทอด โชคดีในภายหลังที่พวกเค้าได้เจอะเจอผู้ใหญ่บ้านเก่า-จางยี่(张毅) แล้วได้นำเอกสารบันทึกข้อมูลประวัติศาสตร์วัฒนธรรมของยี่หวู่กลับไป ประกอบกับหนังสือ《ชาผูเอ่อร์/普洱茶》ของเติ้งสือไห่ได้เผยแพร่ออกมา ทำให้ยี่หวู่และชาผูเอ่อร์ได้รับการตอบรับจากวงการชาใต้หวัน แฟชั่นสมัยนิยมนี้ได้แพร่เข้าไปในฮ่องกง กว่างตง
ผลิตภัณฑ์ชาผูเอ่อร์“96 เจินฉุนหยาห้าว” เป็นชาสั่งผลิตโดยคนชาใต้หวัน ถือเป็นผู้บุกเบิกของยุคฟื้นฟูชายี่หวู่ เป็นชาต้นโบราณของยี่หวู่รุ่นแรกหลังปี 1949 ที่ใช้วิธีการทำชาแบบโบราณ และก็เป็นผลิตภัณฑ์ชาที่เป็นตำนานรุ่นแรกที่กระทำการซ้ำแบบกรรมวิธีการผลิตของชาเกรดห้าง หลังจากชาตัวนี้ ยิ่งมายิ่งมีคนมุ่งสู่ยี่หวู่ กรรมวิธีการผลิตชาแบบโบราณได้รับการศึกษาวิจัยและอนุรักษ์ นับจากนี้ไปก็เป็นการเริ่มต้นเส้นทางของการฟื้นฟูชายี่หวู่
- ปรากฏการณ์ของชาสั่งผลิต :
ชาสั่งผลิตเป็นเหตุการณ์เล็กๆที่แทรกอยู่ในประวัติศาสตร์ชาผูเอ่อร์ แต่มันมีความหมายที่ไม่ควรมองข้ามต่อการฟื้นฟูของชาผูเอ่ออร์ยุคปัจจุบัน เนื่องจากชาสั่งผลิตจำนวนไม่น้อยมิใช่เป็นเพียงสินค้าชาลักษณะทั่วๆไป
พวกมันได้ละทิ้งลักษณะการปล่อยปละและความซ้ำซากของยุคชามัดเจ็ดแผ่น ด้านการคัดเลือกใช้วัตถุดิบเริ่มมีแนวคิดในการแสวงหาแหล่งผลิต และชาป่า ชาปล่อยป่า ชาต้นใหญ่ แล้วทำการทดลองฟื้นฟูกรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม สุดท้ายวิวัฒนาการออกมาเป็นขุนเขา ต้นโบราณ การผลิตด้วยมือ การอัดแผ่นด้วยบล็อกหิน ที่พวกเรายกย่องกันในทุกวันนี้
กล่าวอีกนัยหนึ่ง การปรากฏของชาสั่งผลิตก็เป็นไปตามแนวโน้มการพัฒนาที่สอดคล้องกับตลาดและความต้องการของตลาด
ชาสั่งผลิตได้กำเนิดกลุ่มผลิตภัณฑ์ชาที่เป็นตำนานในปัจจุบัน อาทิเช่น “ผักกาดขาว” “นกยูง” “ต้นใหญ่เขียว” “94 แผ่นดิบซื่อแหย่ (7542 ปี 1994)” เป็นต้น
• นานาตราห้างประชันแข่งขันกัน
ปี 1990 บริษัทใบชาจีนได้ประกาศแจ้งให้โรงงานชาทั้งหลายรับทราบว่า ต่อจากนี้ไปต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ในการใช้เครื่องหมายการค้า“จงฉา/中茶” ต่อจากนั้นมาองค์กรธุรกิจชาต่างทยอยกันไปจดทะเบียนและใช้เครื่องหมายการค้าของตนเอง
ภายหลังในวงการชาผูเอ่อร์ใต้หวันและฮ่องกงเกิดกระแสนิยมดื่มชาเก่าของ“ห้างเก่าแก่” ทำให้เกิดปรากฏการณ์แย่งชิงจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของห้างซ่งพิ่ง(宋聘号) ห้างเชอซุ่น(车顺号) ห้างถงชิ่ง(同庆号) ฝูเหยียนชาง(福元昌).....ห้างชาเก่าแก่ทั้งที่มีชื่อและไม่มีชื่อในประวัติศาสตร์ ต่างทยอยถูกผู้คนแย่งกันนำไปจดทะเบียน
ในขณะเดียวกัน ธุรกิจชาภาคเอกชนบางองค์กรที่ก่อตั้งขึ้นใหม่ได้เริ่มลองเดินบนเส้นทางชื่อห้างของตนเอง :
- ปี 1998 ห้างชา“ซุ่นสือซิ่ง(顺时兴)”ได้ก่อตั้งขึ้น แล้วทำการผลิตชาผูเอ่อร์รุ่น“1998 ยี่หวู่ซุ่นสือซิ่งห้าว (ยอดใบฤดูใบไม้ผลิ)” ถือเป็นชาที่ผลิตโดยห้างชาเอกชนยี่หวู่รุ่นแรกที่ไม่สามารถหาทดแทนได้ในปัจจุบัน
- ปี 1999 ห้างชาชางไท่(昌泰茶行)ได้ก่อตั้งขึ้น แล้วได้นำเสนอชาผูเอ่อร์รุ่น“99 ยี่ชางห้าว”
แต่ทว่ารูปแบบของห้างเอกชนก็ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของยุคสมัยได้ และความเป็นไปของเศรษฐกิจการตลาดเสรีมีบทบาทมากขึ้น ทำให้โรงงานชาภาครัฐเริ่มทยอยทำการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ
โรงงานเซี่ยกวนและเหมิงไห่ได้ทำการแปรรูปสำเร็จเป็นลำดับในปี 2004 แต่โรงงานคุนหมิงยังคงดำรงไว้ซึ่งความเป็นรัฐวิสาหกิจ แต่จนแล้วจนรอดต้องปิดกิจการลงในปี 1996 ช่างเทคนิคตัวหลักๆและพนักงานในยุครัฐวิสาหกิจจำนวนมาก ได้ริเริ่มเดินในแนวทางการตลาดของตนเอง ตราสินค้าผลิตภัณฑ์ชาผูเอ่อร์ก็เริ่มที่ปรากฏออกมายิ่งมายิ่งมาก :
- ปี 1998 โรงงานชาอำเภอหลานชางได้แปรรูปเป็น บริษัทชาโบราณอำเภอหลานชาง(澜沧县古茶公司)
- ปี 1999 โจวปิ่งเหลียง(邹炳良) และ หลูกั๋วหลิง(卢国龄) ได้ร่วมกันก่อตั้ง บริษัทชาไห่วาน(海湾茶业)
- ปี 1999 หยงเจียเซิน(戎加升) ไปรับซื้อโรงงานชารัฐวิสาหกิจในอำเภอซวงเจียงที่ล่มละลายแล้วก่อตั้งเป็น บริษัทชาเหมิงคู่หยงซื่อจำกัด(勐库戎氏茶业有限公司)
- ปี 2002 หย่วนเตี้ยนหยง(阮殿蓉) ได้ก่อตั้ง บริษัทมหาชนอุตสาหกรรมชาหกขุนเขาชาอวิ๋นหนาน(云南六大茶山茶业股份有限公司)
- ปี 2004 ไท่จวิ้นลิน(太俊林) ได้รับซื้อโรงงานชาผูเอ่อร์อวิ๋นหนานแล้วก่อตั้งเป็น บริษัทชาผูเอ่อร์อวิ๋นหนานจำกัด(云南普洱茶厂有限公司)
- ปี 2007 บริษัทชาเฉินเซินเหมิงไห่จำกัด(勐海陈升茶业有限公司) ได้ก่อตั้งขึ้นมา
ฯลฯ
“สตาร์ทอัพ”ขององค์กรธุรกิจชาผูเอ่อร์ยิ่งมายิ่งมาก และการโผล่ออกมาของตราสินค้า ทำให้เครื่องหมายการค้าของชาผูเอ่อร์เกิดเป็นยุคดั่งนานาบุปผาบานประชันกันอีกครั้ง ชาผูเอ่อร์ได้เข้าสู่ยุค“เกรดตราห้าง”แล้ว คุณค่าตราสินค้าค่อยๆปรากฏให้เห็นในตลาด
ปี1993-2008 ยุคเกรดตราห้างของชาผูเอ่อร์ ในยุคสมัยนี้ ท่ามกลางความสับสนแต่ชาผูเอ่อร์ไม่หยุดที่ยกระดับตนเอง ท่ามกลางการก่อตั้งองค์กรธุรกิจและตราสินค้าแต่ไม่หยุดหยั่งที่แสวงหาคุณค่าของตนเองใหม่ จนค้นพบตำแหน่งของตนเอง เป็นการสถาปนารากฐานที่ดีเพื่อการฟื้นฟูชาผูเอ่อร์โดยองค์รวม
สุดท้าย เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2008 ได้ประกาศใช้มาตรฐานแห่งชาติจีน GB/T 22111-2008 อย่างเป็นทางการ ทำให้ชาผูเอ่อร์ไม่ว่าจะเป็นทางด้านภูมิศาสตร์ การเพาะปลูก การผลิต เป็นต้นล้วนมีมาตรฐานที่ชัดเจน ต่อจากนี้ไป ชาผูเอ่อร์ยุค“เกรดตราห้าง”ก็เริ่มพัฒนาไปทางอุตสาหกรรมการผลิตและการตลาดของชาผูเอ่อร์ยุคปัจจุบันอย่างถ้วนหน้า
เอกสารอ้างอิง :
1. 什么是“标号级”普洱茶? : https://m.ipucha.com/show-25-12427.html
2. 标号级普洱茶 , 激荡的十五年 : https://m.ipucha.com/show-24-12762.html