วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2559

เพราะเหตุใดชาผูเอ๋อร์จึงถือเป็น “อาหารเฉพาะพันธกิจ” ? (2)

ตอนที่ 2 : ชาผูเอ๋อร์ --- “อาหารเฉพาะพันธกิจ” ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ยา
普洱茶 ---  “功能性食品” 不是药品



        ณ ปัจจุบัน เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำนำหน้ามากที่สุดที่ทางนานาชาตินำมาทำการศึกษาวิจัย “อาหารเฉพาะพันธกิจ” แบ่งออกได้เป็น 3 ด้าน : 1. คือการแปรสภาพทางชีวภาพโดยจุลินทรีย์ของวัตถุยาธรรมชาติ 2. คือการแปรสภาพทางชีวภาพโดยเอนไซม์ของวัตถุยาธรรมชาติ 3. คือการแปรสภาพทางชีวภาพโดยเซลล์พืชของวัตถุยาธรรมชาติ

        ชาผูเอ๋อร์เป็นผลิตภัณฑ์จากการหมักทางชีวภาพ แม้ว่าการผลิตและพัฒนาการจะมีองค์ประกอบที่ดั้งเดิมและล้าสมัย แต่ล้วนสามารถสืบค้นหาร่องรอยที่ดั้งเดิมของเทคโนโลยี 3 ด้านนี้ได้ เป็นเครื่องดื่มที่มีลักษณะเด่นในบรรดาใบชาประเภทต่างๆที่เพียบพร้อมเป็น “อาหารเฉพาะพันธกิจ” มากที่สุดในปัจจุบัน

        เป็นไปได้ ก็เป็นเพราะเหตุตรงจุดนี้ ผู้คนจำนวนมากยืนหยัดที่เชื่อว่าชาผูเอ๋อร์ที่มีองค์ประกอบซึ่งมีคุณสมบัติทางยาและมีกลไกทางยาสามารถที่จะรักษาโรคภัยไข้เจ็บหลายชนิดได้ นี่ก็เป็นการบ่งชี้ถึงความเข้าใจผิดแบบหนึ่ง สิ่งที่ต้องพูดให้ชัดแจ้งก็คือ “อาหารเฉพาะพันธกิจ” และ “ผลิตภัณฑ์ยา” มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน “เป้าหมาย”(靶向) ของ “ผลิตภัณฑ์ยา” จะชัดเจนมาก ยาลดความดันโลหิตก็ใช้กับคนป่วยด้วยความดันโลหิตสูง ยาลดน้ำตาลในเลือดก็ใช้กับคนที่มีโรคเบาหวาน ซึ่งจะต้องใช้ให้เหมาะกับกลุ่มคนอย่างเคร่งครัด “อาหารเฉพาะพันธกิจ” ไม่มี “เป้าหมาย” ของการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ หลักใหญ่ใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมโภชนาหาร บำรุงสุขภาพและช่วยปรับกลไกชีวภาพให้สมดุล พวกเรายอมรับว่าในชาผูเอ๋อร์ซึ่งดำรงองค์ประกอบที่มีคุณสมบัติทางยาจำนวนมาก เฉกเช่นเดียวกับอาหารอีกจำนวนมากที่พวกเรายืนยันแล้วว่ามีองค์ประกอบที่มีคุณสมบัติทางยาในปริมาณหนึ่ง เช่น กระเทียม พริก มันเทศ มะเขือเทศ...พวกมันประกอบด้วยสารบางชนิดที่ล้วนอาจเป็น “แหล่งยา”(药源) ชนิดหนึ่ง แต่เมื่อทานพวกมันเข้าไปแล้ว ซึ่งจะไม่สามารถเทียบเท่ากับการ “ทานยา” ชาผูเอ๋อร์ก็ทำนองเดียวกัน



        แนวความคิดของชาผูเอ๋อร์ที่จัดเป็น “อาหารเฉพาะพันธกิจ” มิใช่ค้นพบโดยวิทยาศาสตร์ของทุกวันนี้ อันที่จริง ในยุคโบราณกาลของเมืองจีน เกี่ยวกับชาผูเอ๋อร์ที่มีสรรพคุณพิเศษก็ได้ถูกบันทึกเข้าไปในสารบัญยาแล้ว แม้ว่าในช่วงเวลานั้นยังไม่มีการบัญญัติศัพท์ “อาหารเฉพาะพันธกิจ” ขึ้นมา แต่เนื้อหาการอธิบายเช่นเดียวกับ “อาหารเฉพาะพันธกิจ” เช่นนักเภสัชวิทยายุคสมัยชิง จ้าวเสวียหมิ่น(赵学敏) ได้นำชาผูเอ๋อร์จัดเข้าไปอยู่ในหนังสือ《A Supplement of the Compendium of Materia Medica (本草纲目拾遗)》

        สิ่งที่มีคุณค่าควรแก่ความสนใจคือ เมื่อตอนที่คุณจ้าวเสวียหมิ่นประเมินค่าของชาผูเอ๋อร์ เป็นการนำจุดความสนใจที่สำคัญรวบรวมอยู่บนผลิตภัณฑ์ที่พิเศษชนิดหนึ่งของชาผูเอ๋อร์---“ผูเอ๋อร์ฉาเกา” การอธิบายที่เกี่ยวข้องกับลักษณะสรรพคุณของชาผูเอ๋อร์หลักใหญ่ใจความดำเนินการแวดล้อม “ผูเอ๋อร์ฉาเกา” เช่น “ผูเอ๋อร์ฉาเกาดำดั่งเคลือบสี สร่างเมาที่หนึ่ง ; สีออกเขียวจะเด่นกว่า ช่วยย่อยขับเสมหะ ล้างกระเพาะกระตุ้นน้ำลาย สรรพคุณเหลือล้น” ฯลฯ เมื่อเป็นประการฉะนี้ ไม่แม้เพียงผูเอ๋อร์ฉาเกาเป็นผลิตภัณฑ์พิเศษชนิดหนึ่งของชาผูเอ๋อร์ การปรากฏตัวก็อยู่ในรูปเป็นเครื่องราชบรรณาการเสมอมา ; อีกสาเหตุหนึ่งที่สำคัญกว่าคือผูเอ๋อร์ฉาเกาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านดำเนินการผลิตเชิงลึกของชาผูเอ๋อร์ ซึ่งมีสรรพคุณในทิศทางที่เด่นชัดมากกว่า ผลลัพธ์ของ “อาหารเฉพาะพันธกิจ” ก็ปรากฏออกมายิ่งเด่นชัดมากขึ้น



        แต่มีอยู่ประเด็นหนึ่ง และเป็นประเด็นที่พวกเราควรทำให้กระจ่างชัด แม้ว่าจะมีความคิดเห็นมากมายต่อ “เชิงสรุป” ของชาผูเอ๋อร์ในประวัติศาสตร์ แต่ไม่มีการบ่งชี้ถึงหลักฐานอ้างอิงของข้อสรุป แม้กระทั่งตราบจนถึงทุกวันนี้ พวกเราสามารถรู้สึกได้ถึงสรรพคุณมากมายทางบำรุงสุขภาพของชาผูเอ๋อร์โดยตรง แต่ในด้านต่างๆมากมายยังนำหลักฐานออกมาอ้างอิงไม่ได้ ก่อให้เกิด “ปริศนาที่ยังไม่มีคำตอบ” พูดให้ตรงประเด็นมากขึ้น การศึกษาวิจัยของชาผูเอ๋อร์ทำให้พวกเราอยู่ในสภาวะการณ์ที่กระอักกระอ่วนอยู่เสมอ นั่นก็คือ “ข้อสรุปมาก่อน หลักฐานมาหลัง” กวาดไปมองที่การศึกษาวิจัยของชาผูเอ๋อร์ที่พวกเราได้ทำการในหลายปีที่ผ่านมา ไม่ใช่เป็นประเด็นข้อสรุปใหม่ที่นำเสนอจากการคิดสร้างสรรค์ใหม่ขึ้นมา ส่วนใหญ่แล้วเป็นการศึกษาวิจัยผ่านทางวิทยาศาสตร์ เพื่อที่จะมายืนยันความถูกต้องของมุมมองคนโบราณ

........ยังมีต่อ........


แปล-เรียบเรียง จากบทความ《เพราะเหตุใดชาผูเอ๋อร์จึงถือเป็น “อาหารอ้างอิง” ?》ตอนที่ 2---เขียนโดย เฉินเจี๋ย