วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2560

การชื่นชมคุณค่าของเจี้ยนจ่านย้าวเบี้ยน (ตอนที่4)

กาแล็กซี่ในถ้วย




        ความงามแห่งเจี้ยนจ่าน หาที่เปรียบไม่ได้

        เจี้ยนจ่านย้าวเบี้ยน  มีบรรดาศักดิ์เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีความงามซึ่งหาที่เปรียบไม่ได้ รัศมีเปล่งปลั่ง ! ถึงแม้จะข้ามโยเฮนเทนโมกุยุคสมัยซ่งระดับสมบัติแห่งชาติ3ใบที่เก็บอยู่ตามพิพธภัณฑสถานของญี่ปุ่นโดยไม่กล่าวถึง เพียงแค่เจี้ยนจ่านย้าวเบี้ยนใบที่ประกอบด้วยเศษชิ้นส่วนเล็กๆที่ขุดได้จากเมืองหางโจวปี2009ของเมืองจีน ก็ยังเปล่งปลั่งรัศมี งดงามพิลึก เสมือนกับเทหวัตถุในเอกภพ ทำให้ผู้คนต้องตะลึงตาลุกโชน

▲เศษชิ้นย้าวเบี้ยนที่ขุดพบในหางโจว(บน)และภาพหลุมดำจาก NASA (ล่าง)

      「ย้าว」() ใน「ย้าวเบี้ยนเทียนมู่」(曜变天目: ญี่ปุ่นออกเสียง โยเฮนเทนโมกุ) มาจากตัวอักษรจีนโบราณของเมืองจีน ในยุคโบราณเมืองจีน「ย้าว」เป็นการบ่งชี้ถึงเทหวัตถุในเอกภพ หลักใหญ่ใจความบ่งชี้ถึงดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์(เช่น7ย้าว : ดวงอาทิตย์ ดวงจัทร์ ดาวเคราะห์ทั้ง5ดวง) 「ย้าวเบี้ยน」(曜变) ใน「ย้าวเบี้ยนเทียนมู่」เป็นการบ่งบอกถึงความหมายของ「การเปลี่ยนให้เหมือนดั่งย้าว」 「ย้าวเบี้ยนเทียนมู่」ก็คือ「เจี้ยนจ่านที่เผาผนึกให้เปลี่ยนเหมือนดั่งย้าว(ดวงอาทิตย์ ดวงจัทร์) 」

▲เนบิวลา(Nebula ซ้าย)และผนังด้านนอกของโยเฮนเทนโมกุ Fujita Art Museum (ขวา)

▲สุริยุปราคา(ซ้าย)และผนังด้านในของโยเฮนเทนโมกุ Fujita Art Museum (ขวา)

      「สุริยุปราคา」หรือเรียกว่า「สุริยคราส」เป็นปรากฏการณ์ที่ดวงจัทร์โคจรมาอยู่ระหว่างดวงอาทิตย์กับโลก ถ้าหากสามดวงนี้โคจรมาอยู้ในแนวเดียวกัน ดวงจันทร์จะบดบังแสงอาทิตย์ที่ส่องมายังโลก เป็นเหตุให้ดวงอาทิตย์มืดเป็นบางส่วนหรือทั้งหมด

▲รายละเอียดย้าวเบี้ยนของยุคสมัยโบราณและปัจจุบัน(บน)และสุริยุปราคาเต็มดวง(ล่าง)

        ในตำนานเรื่องเล่าพื้นบ้าน เรียกปรากกกาณ์สุริยุปราคาว่าสุนัขอมพระอาทิตย์ สุริยุปราคาจะเกิดขึ้นเฉพาะในวันแรกของเดือนตามจันทรคติ ก็คือเมื่อดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ปรากฏอยู่ในสถานการณ์ที่เหมาะเจาะกัน สุริยุปราคาแบ่งออกเป็นสุริยุปราคาเต็มดวง สุริยุปราคาบางส่วน สุริยุปราคาวงแหวน สุริยุปราคาผสม

▲ย้าวเบี้ยน-ลู่จินสี(บน)และหลุมดำ(Black Hole ล่าง)

      「หลุมดำ」กำลังเป็นที่ถกเถียงอยู่ในยุคปัจจุบัน คือเทหวัตถุในเอกภพที่มีแรงโน้มถ่วงสูงมาก วัตถุจะต้องเร่งความเร็วให้มากกว่าความเร็วแสงจึงจะหลุดออกจากขอบฟ้าเหตุการณ์ได้

▲โยเฮนเทนโมกุ Daitokuji Temple (บน)และหลุมดำมวลยวดยิ่งในเอกภพ

        ปี1916 คาร์ล ซวาสชิลด์(Karl Schwarzsechild)นักฟิสิกส์และดาราศาสตร์ชาวเยอมัน เป็นผู้ที่สามารถแก้สมการสนามไอน์สไตน์(Einstein Field Equation)ได้สำเร็จ โดยผลลัพธ์นี้บ่งบอกว่า ถ้าหากมวลสารปริมาณหนึ่งถูกอัดแน่นในปริมาตรจำกัดค่าหนึ่ง นำไปสู่สถานการณ์ประหลาด คือมีพื้นที่หนึ่งที่เป็นขอบเขตเรียกว่า “ขอบฟ้าเหตุการณ์” ถ้าหากวัตถุหลุดเข้าไปในขอบเขตนี้ แม้แต่แสงก็ไม่สามารถหลุดออกมาได้ เป็น “เทหวัตถุที่คาดคิดไม่ถึง” ถูกนักฟิสิกส์ชาวอเมริกา จอห์น วีลเลอร์(John Wheeler) ได้ขนานนามว่า「หลุมดำ」(Black Hole)

▲โยเฮนเทนโมกุ Seikado Bunko Art Museum (บน)และหลุมดำมวลยวดยิ่ง

        หลุมดำมวลยวดยิ่ง เป็นหลุมดำที่ขนาดใหญ่ที่สุดในเอกภพ ประกอบด้วยมวลหลายแสนเท่าถึงหลายพันล้านเท่าของมวลดวงอาทิตย์ กระทั่งมวลที่มากที่สุดถึงหลายล้านล้านเท่าของมวลดวงอาทิตย์ ถูกค้นพบอยู่ในใจกลางของดาราจักร

▲ย้าวเบี้ยนที่ขุดพบในหางโจว(บนซ้าย)ลายขนกระต่าย(บนขวา)และภาพเปลวสุริยะบนดวงอาทิตย์จาก NASA (ล่าง)

      「เปลวสุริยะ」คือปรากฏการณ์การระเบิดใหญ่ในชั้นบรรยากาศของดวงอาทิตย์ มันสามารถปลดปล่อยพลังงานมหาศาลในเสี้ยวนาที ทำให้ความร้อนในย่านแอ็กทีฟเพิ่มขึ้นทันที แล้วก็แผ่รังสีแม่เหล็กต่างๆออกมา เปลวสุริยะก็เรียกว่า「การลุกจ้าของดวงอาทิตย์

▲ย้าวเบี้ยนที่ขุดพบในหางโจว(บน)และหมู่ดวงดาว(ล่าง)

▲ย้าวเบี้ยน-ลู่จินสี่(ขวา)และหลุมดำดวงอาทิตย์(ซ้าย)

▲โยเฮนเทนโมกุ Fujita Art Museum (บน)และหมู่ดวงดาวในเอกภพ(ล่าง)

▲ย้าวเบี้ยน-ลู่จินสี่(ซ้าย)และหลุมดำดวงอาทิตย์(ขวา)

▲หลุมดำในเอกภพ(บน)และลายเทียนมู่(ล่าง)


เอกสารอ้างอิง :


ความดื่มด่ำแห่งเทพ」ของ “กาแล็กซี่ในถ้วย” นี้ไม่สามารถทำให้ปรากฏบนภาพถ่ายสีได้แม้สักนิดเดียว โปรดชมคลิปวีดีโอที่สำแดงมิติมายาดั่งมนตราดวงดาวในเอกภพ เพียบพร้อมด้วยรังสีอัศจรรย์ที่พิเศษเฉพาะ โดยคลิกลิงค์ข้างล่างนี้
คลิปถ้วยชาโยเฮนเทนโมกุยุคสมัยซ่ง :  https://youtu.be/Exgt7NpgzGk 


[หมายเหตุ] : หลังผ่าน “การชื่นชมคุณค่าของเจี้ยนจ่านย้าวเบี้ยน” แล้ว ทำให้รู้สึกมึนเมาต่อรังสีประกายรุ้งอันวิจิตรพิสดารในจ่าน ได้ซึมซับแบบชิลล์ๆกับปฏิหาริย์มากมายบนโลกนี้และความปลื้มปิติมากล้นของชีวิต

        อันที่จริง เจี้ยนจ่านย้าวเบี้ยน(โยเฮนเทนโมกุ)สวยตรงไหนกันแน่ ? ถึงได้รับการตอบรับจากสังคมญี่ปุ่นโดยเฉพาะตระกูลขุนนางอย่างลุ่มหลงและโปรดปราน โดยถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบรรดาถ้วยเทนโมกุ และยกย่องให้เป็น “กาแล็กซี่ในถ้วย” “ถ้วยหมายเลขหนึ่งของโลก” สนใจโปรดติดตามบทความ《ความหมายโดยนัยทางศิลปกรรมของเจี้ยนจ่านย้าวเบี้ยน》ซึ่งจะนำเสนอตามลำดับต่อไป !!