วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ปริศนาซึ่งทำให้หลงเสน่ห์ (4)

ชาผูเอ๋อร์ : ปริศนาซึ่งทำให้หลงเสน่ห์ (4)
普洱茶 : 引人入胜的谜团 (四)




        การที่พวกเราให้ความสนใจสารอาหารในพืชก็เกี่ยวโยงกับรูปแบบการพัฒนาของการแพทย์สมัยใหม่ในอนาคต

         รูปแบบการพัฒนาการแพทย์สมัยใหม่เคียงข้างไปกับความเจริญก้าวหน้าทันสมัยของสังคมที่พัฒนาควบคู่ไปพร้อมกัน เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของอารยธรรมสังคมสมัยใหม่ แต่ผู้คนได้สังเกตเห็นอย่างทันท่วงทีว่า การพัฒนาอย่างรวดเร็วของการรักษาทางการแพทย์สมัยใหม่แล้วนำมาซึ่งผลของ “โรคทางยา”(药物病) ซึ่งก็คือเป็นวิกฤตของการรักษาทางการแพทย์สมัยใหม่ การปรากฏของมัน : 1 คือ การกำจัดและอัตราการทดแทนของยาสมัยใหม่ที่เร่งเร็วขึ้น แต่ภูมิคุ้มกันของคนกลับลดต่ำลง ยามีผลทาง “กำจัดศัตรู”(消灭敌人) ขณะเดียวกันก็เกิดผลข้างเคียง “ทำร้ายมิตรโดยบังเอิญ”(误伤朋友) ด้วยเหตุนี้ ผลของการรักษาโรคภัยไข้เจ็บสมัยใหม่ ทั่วๆไปกลุ่มของอาการโรค(Syndrom : 综合症)จะเกิดพร้อมกับโรคแทรกซ้อน(Complication : 并发症) สิ่งที่ยิ่งรุนแรงกว่าคือ การตายทั่วโลก 1 ใน 3 เกิดจากการใช้ยาโดยไม่สมเหตุผล(การประเมินคร่าวๆขององค์การอนามัยโลกในยุคปี 70 ศตวรรตที่ 20) ; 2 คือ ยายิ่งมายิ่งมาก ลักษณะของเป้าหมายยิ่งมายิ่งเชิงละเอียดขึ้น คนที่ป่วยเป็นโรคยิ่งมายิ่งมาก อย่างเช่นยารักษาทางโรคความดันเลือดสูง เบาหวาน ทำนองเปลี่ยนไปทุกวี่ทุกวัน จำนวนผู้ป่วยใหม่และเคสก็เพิ่มขึ้นทุกวัน มีแนวโน้มไปทางผู้ที่อายุเยาว์วัย เกิดเป็นสถานการณ์วงจรที่ใช้แก้ปัญหาแต่ยิ่งทำให้เลวร้ายมากขึ้น เข้าทำนองความดีงามสูงขึ้น 1 ฟุต แต่ความชั่วร้ายสูงขึ้น 10 ฟุต(道高一尺,魔高一丈)

        ความเป็นจริงในปี 1993 โครงการศึกษาวิจัยนานาชาติโดยดำเนินการพร้อมกัน 14 ประทศ หัวข้อการศึกษาวิจัยคือ《การตรวจสอบหาความจริงอีกครั้งของวัตถุประสงค์ทางการแพทย์》 มันได้บ่งบอกว่า ทุกวันนี้วิกฤตของการรักษาทางการแพทย์ที่ยังดำรงอยู่บนโลกใบนี้ หลักใหญ่เกิดจากผลของการเปลี่ยนแปลงรูปแบบทางการแพทย์ร่วมสมัยมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน รูปแบบทางการแพทย์ร่วมสมัยก็คือเทคนิคการตรวจหาและเทคนิคการรักษาเป็นหลัก เทคนิคการตรวจหาโดยใช้เครื่องมือที่ยิ่งมายิ่งทันสมัยที่พวกเราคิดประดิษฐ์กันขึ้นมาเพื่อทำการตรวจหาโรคภัยไข้เจ็บ หลังจากนั้นผ่านเทคนิคการรักษา หลักใหญ่คือการใช้ยา ไม่ว่าจะเสียไปเท่าไรเพื่อการทำลาย รูปแบบทางการแพทย์ลักษณะเช่นนี้วงการแพทย์เรียกว่าความเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน การศึกษาพัฒนายาตั้งแต่ต้นจนจบจึงเป็นการวิ่งแข่งขันกับเวลา

        ปี 1996 รายงาน “การต้อนรับความท้าทายแห่งศตวรรตที่ 21” ขององค์การอนามัยโลกได้บ่งชี้ออกมาชัดเจนว่า : “การแพทย์แห่งศตวรรตที่ 21 ขอบเขตของการศึกษาวิจัยไม่ควรที่จะมุ่งไปทางโรคภัยไข้เจ็บอีกต่อไป ทิศทางการศึกษาวิจัยควรที่จะเป็นการแพทย์เพื่อสุขภาพดีของมนุษยชาติเป็นหลัก” พูดให้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น จากรูปแบบทางการแพทย์ที่มุ่งเน้นการค้นหาและตรวจวินิจฉัยโรคแล้วถึงการพิชิตและการทำลายโรคภัยไข้เจ็บ พัฒนายกระดับรูปแบบทางการแพทย์สมัยใหม่เพื่อให้มีความสามารถในการฟื้นตัวโดยปัจเจกบุคคลและความสามารถของการมีสุขภาพที่ดีโดยปัจเจกบุคคล สรุปรวบยอดในคำเดียว จากความเป็นปฏิปักษ์ต่อกันการแพทย์(对抗医学)แปรเปลี่ยนเป็นนิเวศวิทยาการแพทย์(生态医学) มันคือรูปแบบ สิ่งมีชีวิต---จิตวิทยา---สังคมศาสตร์การแพทย์

        ทั้งหมดในนี้ สิ่งแทนยาถือเป็นส่วนประกอบที่สำคัญตัวหนึ่ง : เช่น Fiveleaf Gynostemma Herb(绞股蓝:เจี่ยวกู๋หลาน) Barbary Wolfberry Fruit(枸杞:เก๋าฉี่) Cordyceps sinensis (Berk.) Sacc.(虫草:เห็ดถั่งเช่า) ฯลฯ และหนึ่งในท่ามกลางเหล่านี้ก็มีชาผูเอ๋อร์ที่พวกเราให้ความสนใจ

        ขณะเดียวกันนี้ก็เป็นการตอบคำถามของอีกปัญหาหนึ่ง ระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีกลุ่มองค์กรธุรกิจและคณะบุคคลที่มีภูมิหลังทางชีวเวชศาสตร์เข้ามาในวงการชาผูเอ๋อร์ ซึ่งอาจจะเกี่ยวโยงกับปัจจัยนี้ พวกเขาเข้ามาในธุรกิจนี้แตกต่างจากพ่อค้าชาโดยทั่วไป ส่วนใหญ่เพื่อมาทำการขุดค้นหาองค์ประกอบที่มีคุณสมบัติทางยาและกลไกทางยาที่อาจมีอยู่ในชาผูเอ๋อร์ โดยการไล่ล่าหาเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่พัฒนาให้มีลักษณะพิเศษอย่างเด่นชัดโดยการนำชีวพืชจากธรรมชาติชนิดหนึ่งมาแปรเปลี่ยน

        อาจเป็นเพราะจากการครุ่นคิดเหล่านี้ พวกเราเชื่อว่าการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของชาผูเอ๋อร์ไม่ควรหยุดอยู่แค่ระดับชาวิทยา แต่ควรนำชามาแบ่งป็นภาคส่วนด้าน เคมีใบชา การหมักทางชีวภาพ แหล่งกำเนิดยาและองค์ประกอบที่มีคุณสมบัติทางยา รวมทั้งด้านจิตวิทยา สังคมศาสตร์ ฯลฯ เพื่อมาทำการศึกษาและอภิปราย หรือพูดอีกนัยหนึ่งว่า ควรที่กระทำการไตร่ตรองและศึกษาชาผูเอ๋อร์ในขอบเขตของการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่กว้างขึ้น แรกเริ่ม พวกเราได้กำหนดบางคำถามขึ้นมาเพื่อการศึกษา เมื่อทยอยได้แต่ละคำตอบของคำถามเหล่านี้ แล้วก็เกิดคำถามและข้อสงสัยใหม่ๆมากมาย เปรียบเหมือนกล่องแพนโดร่า(Pandora Box) เมื่อคุณทำการเปิดมันอย่างไม่รู้ตัว จะมีสิ่งต่างๆปรากฏออกมาที่คุณคาดคิดไม่ถึง

        การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ไม่ใช่เพื่อก่อให้เกิดผลความตื่นเต้น และก็มิใช่ยกยอปอปั้น(哗众取宠) แต่ควรอยู่ในกรอบของมาตรฐานอย่างถูกต้องแม่นยำ คือกระบวนการให้เข้าใกล้ความเป็นจริงของวัตถุ รู้ว่ามันคืออะไร แล้วค้นหาเพราะอะไร มิเช่นนั้นจะตกเข้าไปอยู่ในหลุมพรางของสถานการณ์วงจรที่ใช้หัวข้ออันเป็นเท็จ(伪命题)มาทำการศึกษาวิจัย แล้วนำไปสู่การปรากฏวิทยาศาสตร์อันเป็นเท็จ(伪科学)ที่เลวร้ายมากยิ่งขึ้น

        จากปี 2002 ถึง 2013 พวกเราได้ใช้ระยะเวลา 10 ปีเต็ม บนพื้นฐานในการวิเคราะห์และแยกแยะองค์ประกอบทางเคมีจำนวนมากของชาผูอ๋อร์ ใช้วิธีการเปรียบเทียบรายการต่อรายการเพื่อค้นหาประเด็นหลักที่สมเหตุผลและทรงคุณค่า แล้วตามล่าหาภูมิปัญญาอันยอดเยี่ยมจากระบบทางความคิดและตกผลึกทางการผลิตชาของคนโบราณแห่งหยินหนาน

        ถ้ากล่าวกันว่า คนอียิปต์โบราณได้สร้างอาหารจากการหมักชนิดแรกของมนุษยชาติ---ขนมปัง(面包) ถ้าเช่นนั้นบรรพรุษของคนจีนก็ได้ค้นพบสารที่พิเศษเฉพาะชนิดหนึ่งจากธัญญาหารที่ขึ้นราแล้ว---ส่าเหล้า(酒曲) การหมักเหล้าได้เริ่มต้นขึ้น ด้วยเหตุนี้ ขนมปังและเหล้าหมักกลายเป็นแม่แบบทางการหมักของ 2 วิธีการหมักที่พื้นฐานที่สุด วิธีการลักษณะะเช่นนี้ได้ถูกขยายไปอย่างต่อเนื่อง มนุษยชาติจึงได้คิดสร้างวิธีการหมักอาหารขึ้นมาหลายรูปแบบ ก่อร่างเป็นโครงสร้างและแนวความคิดทางการหมัก แล้วกลายเป็นกลุ่มอาหารหมักใน 5 ขอบเขต(หาอ่านได้ในภาคผนวก) อันที่จริง ยังมีกลุ่มที่ 6 ที่ถูกผู้คนละเลย นั่นก็คือกลุ่มชาหมัก ชาผูเอ๋อร์เป็นตัวแทนที่สำคัญที่สุดของกลุ่มนี้

        การที่พวกเรากำหนดให้ชาผูเอ๋อร์มีฐานะเช่นนี้ ก็เนื่องมาจากได้ทำการแยกแยะและศึกษาวิจัยชาผูเอ๋อร์อย่างค่อยๆซึมลึกเข้าไป จากโบราณกาลจนถึงปัจจุบันระบบการผลิตชาผูเอ๋อร์ค่อยๆเสร็จสมบูรณ์ ความเป็นจริงก็คือระบบการหมักของการเปลี่ยนแปลงของชีวพืชชนิดหนึ่ง มันไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุอย่างแน่นอน มันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ในประวัติสาสตร์ทางการหมักแบบดั้งเดิมของจีน

        สิ่งที่มีคุณค่าควรแก่ความสนใจคือ ในบรรดาอาหารทางการหมัก พวกเราคุ้นเคยที่นำผลิตภัณฑ์ทางกลุ่มเหล้าหมักถือเป็นเทคโนโลยี่ทางการหมักแบบดั้งเดิมที่เยี่ยมยอดที่สุด เช่น เหล้าเหมาถาย(茅台酒)ในกลุ่มเหล้าขาว ไวน์ฝรั่งเศสชาโต้ ลาฟิต รอธส์ชิลด์ในกลุ่มไวน์องุ่น แต่มองข้ามไปอีกหนึ่งเทคโนโลยี่ทางการหมักแบบดั้งเดิมที่สุดยอด---ชาผูเอ๋อร์

        บทความต่อจากนี้ไป พวกเราจะมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยี่และหลักการของการหมักทางชีวภาพที่แวดล้อมชาผูเอ๋อร์ โดยเฉพาะเชื่อมโยงกับคำถามและข้อสงสัยต่างๆนานาดังกล่าวข้างต้น เพื่อให้ได้แต่ละคำตอบออกมา

........จบบริบูรณ์........


แปล-เรียบเรียง จากบทความ 《ชาผูเอ๋อร์ : ปริศนาซึ่งทำให้หลงเสน่ห์》 ตอนที่ 4---เขียนโดย เฉินเจี๋ย