ผลในการลดความดันโลหิตของชาผูเอ๋อร์
普洱茶降低血压的作用
4. ผลทางอ้อมในการลดความดันโลหิตของชาผูเอ๋อร์
四, 普洱茶降低血压的间接作用
ตอนที่พวกเราดื่มชาผูเอ๋อร์ การรับรู้ทางสรีระที่ได้รับทางตรงมากที่สุดคือละลายไขมัน ย่อยอาหารเร็ว การตอบสนองที่เกี่ยวพันกันของมันคือการสะท้อนในการขับปัสสาวะ การขับถ่าย อันที่จริงเป็นผลต่อระบบแมเทบอลิซึมในร่างกาย สำหรับทางด้านการลดความดันโลหิตในร่างกายแล้ว สรรพคุณด้านแรกของชาผูเอ๋อร์คือผลทางอ้อม โดยรูปธรรมมีอยู่ 3 ด้าน :
1. ชาผูเอ๋อร์เป็น 1 ใน 3 เครื่องดื่มผู้ยิ่งใหญ่(กาแฟ โกโก้ ชา)ที่มีสารพฤกษเคมี(Phytonutrients)ที่ละลายในน้ำมากชนิดที่สุด เป็นเครื่องดื่มที่มีความปลอดภัยมากที่สุด โดยพื้นฐานของพวกมันโดยมีสารประกอบปฐมภูมิ(Primary Metabolites)ใบชาเป็นหลัก ซึ่งสารเหล่านี้โดยตัวร่างกายของพวกเราเองไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นมาได้ จำต้องอาศัยรับเพิ่มเติมจากภายนอกร่างกาย สารเหล่านี้มีผลอย่างมากในการเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันโรคของร่างกาย โดยเฉพาะมีผลต่อระบบไตของร่างกายอย่างเด่นชัด ดังนั้น สำหรับบุคคลทั่วไป(ผู้ที่ไม่ป่วยความดันโลหิตสูง) รักษาการดื่มชาผูเอ๋อร์ประจำเป็นระยะเวลายาวนาน เป็นวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการป้องกันโอกาสที่จะเป็นความดันโลหิตสูง
2. สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นความดันโลหิตสูงและกำลังทานยาอยู่ ก็เป็นเพราะชาผูเอ๋อร์เพียบพร้อมด้วยลักษณะพิเศษทางละลายไขมัน ช่วยย่อยอาหารเร็วขึ้น การดื่มชาผูเอ๋อร์เป็นประจำสามารถกวาดล้างอุปสรรคที่ยาจะมุ่งสู่ตำแหน่งของโรค กลายเป็น “คนกวาดถนน” และ “หน่วยรบติดปลายปืน” ของยาลดความดัน เพิ่มประสิทธิภาพของยาลดความดันโลหิตให้สูงขึ้น อีกด้านหนึ่งก็ผ่านเส้นทางแมเทบอลิซึม นำส่วนที่เป็นพิษของยาเร่งระบายออกสู่นอกร่างกาย ลดผลข้างเคียงจากพิษของยา ทำให้ภาวะการดื้อยาของผู้ป่วยลดต่ำลงอย่างมาก
3. ในกระบวนการหมักของชาผูเอ๋อร์ปรากฏสารประกอบทุติยภูมิ(Secondary Metabolites)ค่อนข้างมาก เป็นไปตามการศึกษาวิจัยลักษณะเฉพาะทางโครงสร้างและผลทางสรีรวิทยาของสารประกอบทุติยภูมิ สารจำนวนมากที่มีปริมาณเพียงน้อยนิด เช่น ยาปฏิชีวนะ ฮอร์มอนกระตุ้นการเจริญเติบโต สารสี อัลคาลอยด์ เป็นต้น พวกมันแม้ว่าไม่สามารถทำให้เกิดผลทางตรงต่อการลดความดันโลหิต แต่จะมีผลทางอ้อมที่ไม่สามารถมองข้ามไปได้ เช่นมีผลทางป้องกันไม่ให้ความดันโลหิตสูงอุบัติขึ้นมาได้ อย่างผู้ป่วยความดันโลหิตสูงล้วนเกาะติดกับภาวะความเหนืดเลือดสูง “ศิลาหิน” ที่ผ่านการหมักในระดับสูง(เป็นฉาเกาชนิดหนึ่งที่ใช้ชาผูเอ๋อร์เป็นวัตถุดิบในการผลิต)ซึ่งน้ำชาออกสีแดงทับทิม(ปริมาณสารสีแดงชาหนึ่งในสารสีชาประกอบอยู่มาก) ผลของการทดลองโดยผ่าน “ศิลาหิน” บ่งชี้ว่าความเหนืดจำเพราะของน้ำเลือด ปริมาณเม็ดเลือดแดงวัดด้วยกระแสไฟฟ้าและปริมาตรเซลล์อัดแน่นได้รับการทำให้ดีขึ้นอย่างเด่นชัดมาก
อันที่จริง ใน 2 เหตุผลข้างต้น การเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคของร่างกายเป็นด้านที่ชาผูเอ๋อร์มีภาษีเหนือกว่า เหตุที่ทำให้พวกเราให้ความสำคัญตรงจุดนี้ เป็นเพราะว่าโรคจำนวนมาก(ยกเว้นโรคร้ายแรง)ของคนสามารถอาศัยระบบภูมิคุ้มกันของตนเองเสร็จสิ้นกระบวน “การฟื้นตัวเกิดเอง”(Spontaneous Recovery) สำหรับผู้ที่ป่วยด้วยความดันโลหิตสูง การควบคุมด้วยยาและการเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกันเองมาโดยตลอด การปฏิบัติที่เคยชินของคนเราคือผ่านการใช้ยาควบคุมความดันโลหิตแต่ภูมิคุ้มกันโรคจะลดต่ำลง สุดท้ายกลายเป็นวงจรอันเลวร้าย ผลทางอ้อมของชาผูเอ๋อร์เป็นการเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคของร่างกาย หลักใหญ่คือผลของสารประกอบทุติยภูมิบางส่วนที่ก่อเกิดจากสารพฤกษเคมีและในกระบวนการหมัก พวกมันไม่เฉพาะทำให้บรรลุสรรพคุณทางการป้องกัน ยังนำพิษของยาทำการสันดาปออกไป ลดอันตรายของพิษของยาที่มีต่อระบบภูมิคุ้มกันโรค
5. ผลทางตรงในการลดความดันโลหิตของชาผูเอ๋อร์
五, 普洱茶降低血压的直接作用
ถ้าหากชาผูเอ๋อร์ในด้านการลดความดันโลหิตมีเพียงแค่ผลทางอ้อม แถลงการณ์ของการลดความดันโลหิตก็จะไม่เป็นที่ยอมรับ เนื่องจากกลไกของผลทางอ้อมสลับซับซ้อนมากเกินไป ดั่งสภาพรูปแบบใบพัดมากจุดสมมุติ ไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานทางตรงได้ รูปธรรมของผลทางอ้อมคือคุณลักษณะทางบทบาทเสริม ซึ่งบทบาทหลักคือสสารบางส่วนที่อยู่ในชาผูเอ๋อร์ที่มีผลทางตรงต่อการลดความดันโลหิต
กุญแจทั้งหมดนี้มีสารอยู่ 2 ประเภทใหญ่ :
1. ประเภทอัลคาลอยด์ อัลคาลอยด์อันมีคาเฟอีนเป็นสารตัวหลักสามารถก่อให้เกิดผลทางตรงต่อการลดความดันโลหิต รายงานผลการศึกษาวิจัยที่เกี่ยวข้องกับทางด้านนี้มีเป็นจำนวนมาก ขอบเขตที่เชื่อมโยงกว้างมาก สำหรับด้านการลดความดันโลหิตเป็นการเฉพาะแล้ว ในที่นี้จะขอยกเพียง 1 ตัวอย่าง : วิถีการบริโภคของเขตพื้นที่ทางเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองจีนทั่วไปจะค่อนข้างหนักไปทางเค็ม(ปริมาณการบริโภคเกลือสูงมาก สารประกอบเคมีหลักของเกลือคือโซเดียมคลอไรด์) การบรโภคเกลือในปริมาณที่สูง(โซเดียมสูง)มาโดยตลอดจะนำไปสู่ภาวะการคั่งของน้ำและโซเดียม(Retentionof Water and Sodium) อันเป็นเหตุให้ปริมาณเลือดเพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกันระดับอิออนโซเดียมที่อยู่ภายในและภายนอกเซลล์ที่เพิ่มสูงขึ้นอาจเป็นเหตุให้เซลล์เกิดภาวะบวมน้ำ(Edema) เซลล์กล้ามเนื้อเรียบหลอดเลือดบวม ช่องว่างตรงกลางหลอดเลือดจะตีบตัน แรงต้านหลอดเลือดจากภายนอกเพิ่มมากขึ้น นำไปสู่ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น สภาพการณ์แบบนี้ก็จะทำให้สภาพแวดล้อมทางชีวเคมีในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องตามลำดับ นอกจากสมรรถภาพของไตและระบบต่อมไร้ท่อจะแปรปรวนแล้ว ความสามารถในการเปลี่ยนถ่ายโซเดียมของเยื่อหุ้มเซลล์จะลดต่ำลง ทำให้โซเดียมภายในเซลล์ถูกกักขัง สิ่งที่เกิดขึ้นในผนังหลอดเลือด ความเข้มข้นของแคลเซียมในเซลล์อาจจะเพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ หันกลับไปทำให้ความตึงของหลอดเลือดเพิ่มสูงขึ้น แรงต้านตามรอบนอกก็แรงขึ้น ดังนั้นความดันโลหิตสูงจึงเกิดขึ้นมาได้
และกระนั้น อันเนื่องจากปริมาณเลือดที่ผ่านการกรองในไตมีเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่จะถูกท่อไตดูดกลับไปใหม่กลับเข้าไปในหลอดเลือด มีเพียงเล็กน้อยกลายเป็นน้ำปัสสาวะผ่านไปยังกรวยไต ท่อปัสสาวะ เข้าไปในกระเพาะปัสสาวะแล้วถูกขับออกมา ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงโดยส่วนใหญ่ล้วนมีอาการภาวะไร้ปัสสาวะ(Anuria) ภาวะปัสสาวะน้อย(Oliguria) ด้านการรักษาจำเป็นต้องใช้ยาขับปัสสาวะ(ซึ่งผลิตโดยทางเคมี) แต่การใช้ยาขับปัสสาวะเป็นระยะเวลายาวนานหรือในปริมาณมากจะสร้างความเสียหายต่อความดันโลหิตและอวัยวะอื่นๆของร่างกายได้
ส่วนคาเฟอีนของชาผูเอ๋อร์หลังจากรวมเข้าด้วยกันกับสารประกอบเคมีของกลุ่มฟลาวานอลส์ แสดงให้เห็นถึงผลของการขับปัสสาวะอันทรงพลัง ซึ่งมีกลไกคือคลายตัวหลอดเลือดไต ทำให้ปริมาณการไหลของเลือดไตเพิ่มมากขึ้น ความเร็วในการกรองของกลุ่มเส้นโลหิตฝอยที่ไตก็เร็วขึ้น ยับยั้งการดูดกลับของท่อไต ดั่งเช่นนี้เป็นการเร่งการขับน้ำปัสสาวะออกไป มันทั้งสามารถเพิ่มสมรรถภาพของไต และก็สามารถป้องกันโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ(Urinary Tract Infection) เมื่อเปรียบเทียบกับการดื่มน้ำแล้ว ปริมาณการขับปัสสาวะจากการดื่มชาผูเอ๋อร์จะสูงกว่าประมาณ 1.5 เท่า สิ่งสำคัญกว่าคือ กระบวนการแมเทบอลิซึมแบบนี้สามารถทำการเร่งการขับถ่ายสารผลิตผลของการสันดาปและชีวพิษจำนวนมากออกจากร่างกาย ทั้งหมดนี้ก็รวมทั้งอิออนโซเดียม อิออนคลอไรด์ เป็นต้น เมื่อปริมาณเลือดลดต่ำลงก็เป็นเหตุให้เกิดการยับยั้งความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น
พวกเราอาจจะยังมีข้อสงสัยอีกหนึ่ง เพราะเหตุใดบรรดาชาทั้งหลายที่ล้วนมีคาเฟอีน แล้วทำไมมีเพียงชาผูเอ๋อร์ที่สามารถสำแดงสรรพคุณทางขับปัสสาวะและช่วยขับถ่ายปรากฏได้อย่างเด่นชัดเล่า ? เป็นเพราะว่าคาเฟอีนของชาผูเอ๋อร์มิใช่เป็น “การรบหน่วยเดียว” แต่เป็นการสนธิกำลังกับสารอัลคาลอยด์ตัวอื่น โดยเฉพาะกับสารประกอบทุติยภูมิที่เกิดจากกระบวนการหมักของชาผูเอ๋อร์ที่ปราฏกอยู่ในสถานะเชิงซ้อน เป็นผลลัพธ์ของ “สงคราม” จาการสนธิกำลัง ในการดื่มชาประจำวันของพวกเราก็พบว่า การดื่มชาผูเอ๋อร์เปรียบเทียบกับชาชนิดอื่นๆแล้ว ผลการขับปัสสาวะของชาผูเอ๋อร์จะดีกว่าชาชนิดอื่นๆอย่างเห็นได้ชัดเจน
2. ประเภทสารประกอบทุติยภูมิ แมเทบอลิซึมทุติยภูมิคือการบ่งชี้ถึงกระบวนการที่ในช่วงระยะการเจริญเติบโตของจุลินทรย์ช่วงเวลาหนึ่งโดยใช้สารประกอบปฐมภูมิเป็นสารตั้งต้น ทำการสังเคราะห์ได้สารบางชนิดที่มีสรรพคุณไม่ชัดเจนต่อกิจกรรมการดำเนินชีวิตของจุลินทรีย์ สารผลิตภัณฑ์ของกระบวนการนี้ ก็คือสารประกอบทุติยภูมิ โครงสร้างโมเลกุลที่สังเคราะห์จากแมเทบอลิซึมทุติยภูมิจะสลับซับซ้อนมาก ไม่มีหน้าที่ทางสรีรวิทยาอย่างเด่นชัดต่อสิ่งมีชีวิตนี้หรือมิใช่สารโมเลกุลเล็กที่สิ่งมีชีวิตนี้ต้องการในการเจริญเติบโตและแพร่พันธุ์ เช่น ยาปฏิชีวนะ ชีวพิษ ฮอร์มอน สารสี เป็นต้น ยกกรณี GABA(γ- AminoButyric Acid) เป็นตัวอย่าง เมื่อพวกเรานำใบชาสดจากต้นชาไปวางไว้ในภาชนะภาวะพร่องออกซิเจนที่ปิดมิดชิด(ถือเป็นกรรมวิธีการผลิตจัดการแบบไร้อากาศที่พิเศษ) พืชพรรณโดยตัวมันเองจะเกิดปฏิกิริยารุนแรงเกินไป(OverReaction) ก่อเกิดสารประกอบทุติยภูมิ : GABA มันมีผลต่อศูนย์ควบคุมหลอดเลือดของไขสันหลัง มีผลเร่งในการขยายหลอดเลือด สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของการลดความดันโลหิต ในการศึกษาวิจัยอึ้งคี้(黄芪 : Milkvetch Root)ยาแผนจีน ค้นพบว่าส่วนประกอบที่ได้ผลทางลดความดันโลหิตดีที่สุดก็คือ GABA การศึกษาวิจัยห้วข้อนี้ ริเริ่มคิดค้นพบโดยนักวิทยาศาตร์ชาวญี่ปุ่น อันที่จริง ในกระบวนการหมักกองและการหมักภายหลังของชาผูเอ๋อร์(ชาสุก ชาดิบ) เนื่องจากถือเป็นกระบวนการผลิตจัดการแบบไร้อากาศที่พิเศษเฉพาะ(พร่องออกซิเจน) ล้วนทำให้ปริมาณ GABA ในใบชาเพิ่มถึง 150 mg/kg ขึ้นไป(เป็น 10-30 เท่าของชาทั่วไป) และส่วนประกอบสำคัญอื่นๆเช่น คาเฟอีน ทีอะนิน เป็นต้น ปริมาณยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ผ่านการทดลองในสัตว์และการทดลองทางคลินิกพิสูจน์ได้ว่า ชาที่มี GABA มีผลในการลดความดันโลหิตดีกว่าชาทั่วไป
ยังมีอีก ในกระบวนการหมักของชาผูเอ๋อร์มีจุลินทรีย์เชื้อราสอดแทรกเข้ามา อัลคาลอยด์บางชนิดจาการสังเคราะห์ของเชื้อราเช่น เออร์กอตอัลคาลอยด์(Ergot Alkaloid) ซึ่งก็ถือเป็นสารประกอบทุติยภูมิ ต่อการลดความดันโลหิตก็มีผลอย่างเด่นชัด
อันที่จริง เมื่อเปรียบเทียบกับสารประกอบปฐมภูมิแล้ว สารประกอบทุติยภูมิไม่ว่าจะด้านปริมาณหรือรูปแบบชนิดของสารล้วนมีมากกว่ามากและสลับซับซ้อนมากกว่าสารประกอบปฐมภูมิ มวลสาร 50% ของบรรดาพวกมันล้วนมีผลทางตรงต่อการลดความดันโลหิต แต่พวกมันจะมีจุดด้อยอยู่อย่าง สารประกอบทุติยภูมิตัวเดียวโดดๆแม้ว่าจะมีฤทธิ์มากทาง “การรักษามุ่งตรงเป้า”(靶向性) แต่เกือบทั้งหมดอยู่ในระดับนิดเดียวหรือเล็กน้อยมาก ดำรง “ขนาดยา” ไม่เพียงพออย่างเด่นชัด เป็นเหตุให้ผลในการลดความดันโลหิตของสสารเดียวมีน้อยมาก แต่เมื่อนำสารประกอบทุติยภูมิเหล่านี้เก็บรวบรวมขึ้นมา ถึงแม้ “ปริมาณองค์รวม” ของมันยังต่ำกว่าขนาดยาของผลิตภัณฑ์ยามาตรฐาน แต่ก็เริ่มสำแดงเดชทาง “ฤทธิ์ยา” ของการลดความดันโลหิต ดังนั้น สำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูงระยะแรก(ความดันบีบตัว 140-159 mmHg ความดันคลายตัว 90-99 mmHg)สามารถใช้การรักษาโดยไม่ใช้ยาได้โดยทั้งหมด แต่วิธีการนี้ไม่เหมาะสมกับผู้ป่วยความดันโลหิตสูงอันเนื่องจาก “ปัจจัยทางพันธุกรรม” แต่สำหรับ “ปัจจัยทางจิตใจและสภาพแวดล้อม” “ปัจจัยทางอายุ”(40 ปีขึ้นไป) “ปัจจัยทางพฤติกรรมการใช้ชีวิต” “โรคอ้วน” “โรคเบาหวาน” “ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ” “โรคต่อมไทรอยด์” “หลอดเลือดไตตีบตัน” “โรคไต” “รอยโรคต่อมหมวกไตกินที่” เป็นต้นที่เป็นสาเหตุของการริเริ่มป่วยความดันโลหิตสูง จะได้ผลอย่างเด่นชัด
ผู้ชายหลังจากอายุ 50 ปี(ผู้หญิงหลังจากอายุ 40 ปี) เนื่องจากความดันขณะหัวใจคลายตัวปรากฏแนวโน้มที่จะลดต่ำลง ความดันโลหิตก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว เป็นอุบัติการณ์เริ่มต้นของความดันโลหิตสูง ควรที่จะมาให้ความสนใจเป็นพิเศษ เตรียมการป้องกันแต่เนิ่นๆเท่าที่จะเป็นไปได้ ทั้งหมดนี้ สงวนอุปนิสัยในการดื่มชาผูเอ๋อร์เป็นประจำโดยตลอด ก็เป็นวิธีหนึ่งในการป้องกันความดันโลหิตสูง
6. ทำการเลือกชาผูเอ๋อร์แบบไหน ?
1. ความปลอดภัย สิ่งสำคัญคือยาเคมีเกษตรตกค้างและธาตุโลหะหนักปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐานหรือไม่ ในการสำรวจตลาดของพวกเราได้พบเห็นปรากฏการณ์หนึ่งที่แปลก อัตราส่วนของพนักงานที่ทำงานด้านชาผูเอ๋อร์ป่วยด้วยความดันโลหิตสูงไม่ได้ต่ำกว่าอาชีพอื่นๆ ปัจจัยหลักเกี่ยวข้องกับการดื่มชาผูเอ๋อร์ที่มียาเคมีเกษตรตกค้างและธาตุโลหะหนักปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐานเป็นระยะเวลามายาวนาน
2. ชาผูเอ๋อร์ที่ระดับการหมักค่อนข้างเต็มที่ แต่ไม่มากเกินไป
3. เป็นไปได้ให้เลือกผลิตภัณฑ์ฉาเกาที่สกัดและทำให้เข้มข้นที่ภาวะอุณหภูมิต่ำ แล้วทำการหมักอีกครั้ง หลีกเลี่ยงสารปนเปื้อนและสารแปลกปลอมในผลิตภัณฑ์ชาที่จะไปรบกวนและทำลายคุณสมบัติหลักของใบชา แน่นอน ยิ่งเป็นการหลีกเลี่ยงปรากฏการณ์ของยาเคมีเกษตรตกค้างและธาตุโลหะหนักปราฏกขึ้น
การสรุปโดยย่อ : ชาผูเอ๋อร์แบบที่คุณภาพดี บังเกิดคุณประโยชน์ต่อความดันโลหิตสูง 3 ประการ ดังนี้ :
1. ลดอัตราการป่วยของความดันโลหิตสูง
2. สำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูงระดับเบา สามารถดำเนินการรักษาโดยไม่ใช้ยาโดยผ่านวิธีการดื่มชาผูเอ๋อร์อย่างถูกต้องเพื่อบรรลุผลลัพธ์ของ “การฟื้นตัวเกิดเอง”
3. สำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูงระดับกลางและหนัก นอกจากดำเนินการรักษาโดยใช้ยาควบคุมตามใบสั่งแพทย์แล้ว สามารถใช้การดื่มชาผูเอ๋อร์เป็นวิธีการรักษาเสริม
........จบบริบูรณ์........
แปล-เรียบเรียง จากบทความ《กลไกการป้องกันกับการลดความดันโลหิตของชาผูเอ๋อร์ (ตอนจบ)》---เขียนโดย เฉินเจี๋ย โดยพิมพ์เผยแพร่ลงในวารสาร《ผูเอ๋อร์》ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2016
http://chuansong.me/n/1497930035825
กลไกการป้องกันกับการลดความดันโลหิตของชาผูเอ๋อร์ (ตอนที่ 3)