「ปั้นจื่อซา」--กำเนิดขึ้นในยุคสมัยซ่ง รุ่งเรืองในยุคสมัยหมิง ถือเป็นพาหะทางอารยธรรมและวัฒนธรรมชาของเมืองจีน ตั้งแต่โบราณกาล ผู้ที่มีรสนิยมทางศิลปวัฒนธรรมระดับสูง ส่วนใหญ่ล้วนมี “จื่อซาผูกพัน” เมืองหยีซิงเป็นเพราะปั้นจื่อซาที่งามประณีตจึงเป็นที่โจษขานทั่วไป
「ปั้นปังโคย」--กำเนิดขึ้นในยุคกลางสมัยชิง ปั้นจูหนีที่ซุ่มอยู่ในพื้นที่ปังโคย (枫溪) เมืองแต้จิ๋ว รูปลักษณ์กระชับ เต็มไปด้วยความดื่มด่ำที่เล็กกะทัดรัดอย่างวิจิตร ค่อยๆเป็นที่เห็นชอบและยอมรับในวงการชาจีนทั่วไป
ปั้นจื่อซาหยีซิงและปั้นปังโคยแต้จิ๋วมีจุดเหมือนอย่างหนึ่ง ก็คือใช้ในการชงชา เรียกขานว่า「ปั้นชา」แต่ถ้าหากทำความเข้าใจเชิงลึกก็จะค้นพบว่า สองสิ่งนี้บนความเป็นจริงมีข้อแตกต่างมากมาย
งั้นปั้นสองชนิดนี้มีความแตกต่างกันตรงไหนบ้าง ?
1. แร่ดินดิบ
“ดินจื่อซา” ของ「ปั้นจื่อซา」ขุดได้จากเหมืองแร่ดินในหยีซิง โดยพื้นฐานแบ่งออกเป็น3ประเภทใหญ่คือ จื่อหนี ต้วนหนี และจูหนี ซึ่งแต่ละประเภทยังสามารถแยกแยะออกเป็นอีกหลายชนิด เผาออกมาได้หลากหลายสี มีประวัตความเป็นมากว่า4ร้อยล้านปี มีแร่ควอทซ์เป็นองค์ประกอบในอัตราส่วนที่สูง เมื่อเผาผนึกแล้วเกิด “โครงสร้างรูพรุนคู่” ที่มีความสามารถในการซึมผ่านอากาศได้ดี น้ำชาที่ชงจากปั้นจื่อซาหยีซิงจึงหอมกรุ่นเป็นพิเศษ
▲“แร่ดินจื่อซา” จากเหมืองแร่ดินในเขาหวางหลงซาน-หยีซิง ลักษณะมีความเป็น “ทราย” สูง
▲ระดับความหยาบของเนื้อดินจื่อซา(目: Mesh : ช่อง/ตร.นิ้ว) หลังการเผาผลิตเป็น「ปั้นจื่อซา」แล้วออกเป็นสี ม่วง แดง เขียว เหลือง หลากหลายสี เมื่อนำมือไปลูบสัมผัสจะมีความรู้สึกสากมือจากเนื้อทราย
▲หน้าตัดของเนื้อดินจื่อซาที่เผาผนึกแล้ว เป็นลักษณะที่มีความสามารถในการซึมผ่านอากาศได้ดี
▲ภาพ “โครงสร้างรูพรุนคู่” (ซ้าย) รูพรุนแบบที่ 1 (ขวา) รูพรุนแบบที่ 2
“ดินจูหนี” ของ「ปั้นปังโคย」ขุดได้จากใต้ท้องทุ่งนาในปังโคยแต้จิ๋ว คนพื้นที่เรียกขานกันว่า “ดินแดง” ถือเป็น “ดินเกาลิน” แต่มีคุณลักษณะพิเศษคือมีเหล็กออกไซด์เป็นองค์ประกอบในอัตราส่วนที่สูงมาก เนื้อดินละเอียด มีแร่ควอทซ์เป็นองค์ประกอบในอัตราส่วนที่ต่ำมาก แร่ดินดิบจะออกสีเหลือง หลังเผาเสร็จจะออกไปทางแดง เฉดสีจึงไม่หลากหลาย
▲“แร่ดินจูหนี” จากปังโคย-แต้จิ๋ว ดั้งเดิมขุดจากใต้ท้องทุ่งนาที่มีความเป็นดินเหนียวสูง ปัจจุบันเปลี่ยนใช้แร่ดินธรรมชาติที่มีแร่ธาตุโลหะ ธาตุอโลหะและสารอินทรีย์เป็นองค์ประกอบอยู่จำนวนมาก มีคุณลักษณะที่อากาศซึมผ่านได้
▲จากดินจูหนีที่ออกสีเหลือง เมื่อเผาผลิตเป็น「ปั้นปังโคย」แล้วจะออกเป็นสีแดง เนื้อดินหนาแน่น ผิวปั้นเรียบลื่น มีคุณลักษณะที่น้ำและอากาศซึมผ่านได้ต่ำ
2. กรรมวิธี
「ปั้นจื่อซา」ทั่วๆไปจะใช้กรรมวิธี “การขึ้นรูปโดยการตี” (拍打成型) ซึ่งยากและสลับซับซ้อน กรรมวิธีโดยการตีดินแผ่นสามารถทำปั้นออกมาในรูปทรงลักษณะต่างๆได้ง่าย เช่น ปั้นรูปทรงเหลี่ยม เป็นต้น แต่ถ้าเป็นปั้นทรงกลมที่มีลายวงแหวน ต้องอาศัยช่างฝีมือที่มีความชำนาญสูง
▲กรรมวิธี “การขึ้นรูปโดยการตี” ของ「ปั้นจื่อซา」
▲「ปั้นจื่อซา」รูปทรงสี่เหลี่ยม
「ปั้นปังโคย」ใช้กรรมวิธี “การขึ้นรูปโดยแป้นหมุน” (手拉成型) ซึ่งเป็นวิธีการโบราณ ใช้ศิลปหัตถกรรมบนปลายนิ้วดึงและรีดดินโคลนให้เป็นปั้นที่อย่างมากออกเป็นรูปทรงกลม แต่สามารถทำเป็นลายวงแหวนออกมาได้ง่าย ผิวปั้นส่วนใหญ่จะเคลือบด้วยน้ำเคลือบ หลังเผาเสร็จผิวหน้ามันเงา
▲กรรมวิธี “การขึ้นรูปโดยแป้นหมุน” ของ「ปั้นปังโคย」
▲「ปั้นปังโคย」รูปแบบกลมที่มีลายวงแหวนล้อมรอบ
3. ขนาดเชิงอุตสาหกรรม
ปั้นจื่อซาหยีซิงได้กลายเป็นห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่สมบูรณ์แบบแล้ว แต่ขนาดเชิงอุตสาหกรรมของปั้นปังโคยแต้จิ๋วยังอยู่ในระดับที่เล็กมากโดยการเทียบเคียง สาเหตุที่ทำให้สองสิ่งนี้แตกต่างกันคืออะไร ?
3.1 ชื่อชั้นต่างกัน
เมื่อเปรียบเทียบประวัติศาสตร์ระหว่างปั้นจื่อซาหยีซิงกับปั้นปังโคยแต้จิ๋วแล้ว ที่แท้ชื่อชั้นต่างกันมาก หลักใหญ่เป็นเพราะเบื้องหลังทางวัฒนธรรมและการเกี่ยวโยงทางพื้นที่ อดีตกาล แต้จิ๋วถือเป็นพื้นที่อันไกลพ้น แต่หยีซิงตั้งอยู่ในแถบเจียงเจ้อ จึงมีปัญญาชนเข้ามามีส่วนร่วมเป็นจำนวนมาก นัยทางวัฒนธรรมจึงลึกซึ้งกว่า
3.2 การประสาทวิชาความรู้ต่างกัน
แม้ว่าคนแต้จิ๋วได้เริ่มทำปั้นในยุคปลายหมิงต้นชิง แต่ประเพณีดั้งเดิมของแต้จิ๋วที่มีมาตลอดในอดีตว่า หัตถกรรมการทำปั้นจะถ่ายทอดให้เฉพาะลูกชายไม่ถ่ายทอดให้ลูกสาว ต่างคนต่างมีสูตรการผสมแร่ดินและกรรมวิธีการปั้นเป็นของตนเอง เป็นความลับตระกูลไม่แพร่งพรายให้ภายนอกรู้ ดังนั้น การสืบทอดเทคโนโลยีการทำปั้น ผู้คนจำนวนมากคิดที่จะเรียนแต่ไม่รู้จะไปเรียนรู้ได้ที่ไหน ในเมื่อปั้นแต้จิ๋วไม่มีชื่อก็ขายไม่ได้ราคา จึงไม่ดึงดูดผู้ที่มีความสามารถเข้าสู่วงการนี้ เป็นตัวขัดขวางการพัฒนาของปั้นแต้จิ๋ว
3.3 อุปกรณ์ชาและประเพณีการดื่มชาต่างกัน
แต้จิ๋วถือเป็นถิ่นกำเนิดของ “ชากงฟู” (工夫茶) ดังนั้น รูปลักษณะของปั้นปังโคยแต้จิ๋วจึงทำออกมาในขนาดเล็ก ความจุประมาณ80-120มล. เมื่อไปถึงพื้นที่แถบเจ้อเจียง ปักกิ่ง เป็นต้นล้วนไม่รู้ว่าปั้นเล็กใบนี้ใช้ในการชงชา เนื่องจากพวกเขาล้วนดื่มชาจอกใหญ่ ปริมาณน้ำชาในขนาดความจุของปั้นปังโคยแต้จิ๋วได้เพียงชาจอกเดียวของพวกเขา จึงไม่เหมาะเจาะกับท้องถิ่นที่มีประเพณีการดื่มชาไม่ใช่แบบ “ชากังฟู”
▲อุปกรณ์ชาใน “ชากงฟู” ของแต้จิ๋ว
3.4 จำนวนการจ้างงานต่างกัน
จากการรวบรวมทางสถิติที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ มีผู้ที่ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตปั้นจื่อซาหยีซิงมากที่สุดถึงแสนกว่าคน ถ้าหากนำส่วนที่ทำเหมืองแร่ดินจื่อซาและธุรกิจรายล้อมที่ต่อเนื่องกันนับรวมเข้าไปแล้ว จะมีจำนวนถึง2แสนกว่าคน แต่แต้จิ๋วมีเพียงไม่เกิน500คน ดูจากด้านการพัฒนาธุรกิจแล้ว ผู้คนที่ปฏิบัติงานจำนวนน้อยมากก็เป็นสาเหตุรากเหง้าที่ทำให้แต้จิ๋วกับหยีซิงแตกต่างกันมาก
บทสรุป
การเปรียบเทียบปั้นสองชนิดนี้ ควรที่พิจารณาบนด้านการใช้ประโยชน์และทางสุนทรียศาสตร์ ภายใต้การเทียบเคียง
การใช้ประโยชน์ ปั้นจื่อซาจะมีภาษีเหนือกว่า เนื่องจากความสามารถที่อากาศซึมผ่านได้ดี เป็นสิ่งที่แร่ดินจากแหล่งอื่นๆไม่สามารถทดแทนกันได้
สุนทรียศาสตร์ ปั้นจื่อซาสามารถทำออกมาบนศิลปกรรมที่มีรูปแบบหลากหลายกว่ามาก 1. รูปแบบ「ลวดลาย」(花货) 2. รูปแบบ「เงาเรียบ」(光货) 3. รูปแบบ「ซี่โครง」(筋纹)
▲「ปั้นจื่อซา」รูปแบบ「ลวดลาย」 เป็นประติมากรรมนูนที่ใช้สัณฐานพืชหรือสัตว์เป็นแม่แบบ
▲「ปั้นจื่อซา」รูปแบบ「เงาเรียบ」ที่มีรูปแบบต่างๆมากมายที่ใช้การแปรผันทางรูปลักษณ์บนผิวเรียบและมิติของเส้นสาย และความสัมพันธ์ทางอัตราส่วนขององค์ประกอบต่างๆของปั้น องค์รวมดูสมส่วน
▲「ปั้นจื่อซา」รูปแบบ「ซี่โครง」เป็นการนำรูปลักษณะของดอกไม้ ทำออกมาในโครงสร้างที่แม่นยำและงามวิจิตรประณีต
· แนวความคิด ปรัชญา สิ่งสี้ลับ รสนิยม ที่ไม่สามารถพรรณนาออกมา ผู้คนก็จะกล่าวโดยสรุปรวบยอดว่า “สุดยอด!” สุดยอดเป็น “สภาพทางอารมณ์” แบบหนึ่ง เป็น “เสน่ห์” อย่างหนึ่ง ที่ทำให้ผู้คนรู้สึกปลื้มปีติอย่างไม่มีที่สิ้นสุด รู้สึกสุนทรีย์ที่ความงามหาไม่ได้อีกแล้ว ดังนั้น ถ้าหาก「ปั้นจื่อซา」ใบหนึ่งที่สามารถทำให้ผู้คนรู้สึก “สุดยอด” จนไม่สามารถกล่าวออกเป็นคำพูดได้ นั่นย่อมเป็น「ปั้นจื่อซา」ผลงานยอดเยี่ยมและสูงส่งในบรรดาปั้นทั้งหลาย
▲ศิลปกรรมจื่อซาที่โดดเด่นจะมีจินตนิยม มีจิตวิญญาณ การที่จะสามารถนำวิญญาณที่ล่องลอยมาตกผลึกอยู่ในผลงานได้หรือไม่ เป็นบททดสอบและเป็นสิ่งที่ศิลปินจื่อซาคาดหวังเป็นอย่างยิ่ง ไม่เพียงแนวความคิดในการออกแบบมีความหมายโดยนัย มีความคิดสร้างสรรค์ ขณะเดียวกัน จะต้องกระทำในทุกรายละเอียดไม่มีที่ติ จะต้องดำเนินการทุกขั้นตอนให้สำเร็จลุล่วงอย่างสมบูรณ์
-----…..-----…..-----…..-----…..-----…..-----…..-----…..-----
เอกสารอ้างอิง :
1. 紫砂界-宜兴紫砂 PK 潮州紫砂 : https://kknews.cc/collect/qy6g55r.html
2. 宜兴紫砂壶PK潮州手拉壶,有何不同? : http://www.360doc.cn/article/17976275_607688861.html
3. 宜兴紫砂壶和潮州手拉壶有哪些不同? : https://kknews.cc/collect/gj9al8.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น